ผู้เขียน หัวข้อ: สธ.ประกาศ'แร่ใยหินวัตถุอันตรายประเภท 4'  (อ่าน 554 ครั้ง)

ออฟไลน์ Por-MedTech

  • Global Moderator
  • medtech ปี เอก
  • *****
  • กระทู้: 1192
    • อีเมล์
สธ.ประกาศ'แร่ใยหินวัตถุอันตรายประเภท 4'


            เครือข่ายต่อต้านแร่ใยหินแห่งประเทศไทย T-BAN จัดประชุมเรื่อง มาตรการทำให้สังคมไทยไร้แร่ใยหิน และข้อเสนอต่อ คสช. โดย น.พ.นพพร ชื่นกลิ่น รองอธิบดี กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า คณะกรรมการศึกษาผลกระทบสุขภาพจากใยหิน ที่มี น.พ.ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธาน มีมติสรุปว่าให้ยืนยันยกเลิกการใช้แร่ใยหินในทุกผลิตภัณฑ์ ตามมติ ครม. เมื่อวันที่ 12 เมษายน 2554 โดยปลัดกระทรวงสาธารณสุข ได้ลงนามผลสรุป ส่งให้กระทรวงอุตสาหกรรมแล้ว โดยเสนอให้สำนักควบคุมวัตถุอันตรายของกรมโรงงาน กระทรวงอุตสาหกรรม พิจารณาแร่ใยหินเป็นวัตถุอันตรายชนิดที่ 4 และให้ปรับค่ามาตรฐานของฝุ่นแร่ใยหินในที่ทำงานให้เหลือ 0.1 เส้นใยต่ออากาศ 1 ลบ.ซม. จากปัจจุบันที่สูงถึง 5 เส้นใยต่ออากาศ 1 ลบ.ซม. สนับสนุนเทคโนโลยีการใช้วัสดุหรือสารทดแทน และตั้งกองทุนผู้ได้รับผลกระทบจากแร่ใยหิน

            ด้านนางสมศรี สุวรรณจรัส ผู้อำนวยการสำนักควบคุมวัตถุอันตราย ในฐานะตัวแทนจากกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวว่า ในการยกเลิกแร่ใยหินนั้น ทางกระทรวงอุตสาหกรรมมีแผนดำเนินการในส่วนนี้อยู่แล้วแต่ต้องคำนึงถึงผลกระทบรอบด้าน ซึ่งทางกระทรวงเองยืนยันว่า การยกเลิกจะต้องให้ทุกฝ่ายมีความพร้อมเพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบต่อภาคธุรกิจ ซึ่งเป็นแผนในระยะ 5 ปี โดยยังไม่ได้มีการกำหนดว่าจะเริ่มเมื่อใด

            ขณะที่ นางสมบุญ สีคำดอกแค ผู้ประสานงาน เครือข่ายรณรงค์ยกเลิกแร่ใยหินแห่งประเทศไทย (T-BAN) กล่าวว่า ตนขอชื่นชมที่กระทรวง สธ. ทำหน้าที่ในการปกป้องสุขภาพคนไทยให้พ้นจากอันตรายจากพิษภัยของแร่ใยหินแตกต่างสิ้นเชิง จากกระทรวงอุตสาหกรรมที่จะยืดอีกห้าปีโดยไม่รู้จะเริ่มเมื่อใด กระทรวงอุตสาหกรรมต้องดำเนินการยกเลิกใยหินโดยด่วน ทั้งนี้ ตามที่เครือข่ายได้ไปยื่นเรื่องต่อ คสช. นั้น ทาง คสช. แจ้งว่า ได้ส่งเรื่องที่เครือข่ายฯ ไปติดตามให้ดำเนินการเรื่องนี้ไปยังกระทรวงอุตสาหกรรมแล้ว เครือข่ายทีแบนพร้อมจะไปติดตามเรื่องนี้อีกครั้งที่กระทรวงอุตสาหกรรมในวันที่ 16 สิงหาคม เพราะให้เวลากระทรวงอุตสาหกรรมมานานแล้ว ขอให้อุตสาหกรรมเลิกซื้อเวลาให้ธุรกิจใยหินทำร้ายคนไทยอีกต่อไป




ที่มาข่าว:นสพ.บ้านเมือง
ที่มาภาพ:Internet