ผู้เขียน หัวข้อ: เว็บโซเชียล.. จอเล็ก! เชลฟ์ใหม่..บ้านแลนด์  (อ่าน 1448 ครั้ง)

ออฟไลน์ IloveMT

  • medtech ป โท
  • *****
  • กระทู้: 289
    • อีเมล์

ทุกวันนี้ใครๆ ก็ทำกิจกรรมตลาดผ่านออนไลน์ ช่องทางสื่อสารใหม่ที่กลายเป็นวิถีคุ้นเคยของคนเมือง

ซึ่งนำกระแสให้คนธุรกิจต้องหันหน้าเข้ามาเล่นสื่อใหม่เหล่านี้ เพื่อติดตามและเข้าถึงลูกค้าได้อย่างเป็นกันเอง ในยุคที่สื่อออนไลน์ทรงพลังในโลกสื่อสาร ด้วยจุดแข็งการเป็นเวทีเปิด ที่สามารถแลกเปลี่ยนทั้งข้อมูล เรื่องราว อารมณ์ ความรู้สึก และปฏิสัมพันธ์ที่เขาถึงจิตใจผู้คน ได้มากกว่าโลกอินเทอร์เน็ตในยุคก่อน  
 
พลังโซเชียลมีเดียยุค 3.0 ที่ผูกโยงเทคโนโลยีกับคนเข้ามาใกล้ชิดเหมือนเพื่อนสนิท ทำให้เว็บเครือข่ายออนไลน์ชื่อดัง ทั้งเฟซบุ๊ค-ทวิตเตอร์-และยูทูบ กลายเป็นสื่อสังคมออนไลน์ที่ทรงอิทธิพล ครองใจคนยุคนี้ ที่ชีวิตวันทำงานและเวลาส่วนตัว เกี่ยวพันกับเครือข่ายสังคมออนไลน์จนแทบแยกไม่ออก
 
"แลนด์ฯ ใช้สื่อออนไลน์ ทั้งเว็บไซต์ และเว็บโซเชียลมีเดียมาพักใหญ่แล้ว ยอมรับว่าโลกโซเชียลมีเดียไปเร็วมาก เข้าถึงคนทุกเพศ-ทุกวัย เป็นเครื่องมือยุคใหม่ที่ทั้งเร็ว สะดวก และทรงพลัง" ศุภรัชฎ์ วีระกุล ผู้จัดการฝ่ายสื่อสารองค์กร แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ เริ่มต้นเล่าถึงกิจกรรมการตลาดผ่านโลกออนไลน์ ของ บมจ.แลนด์แอนด์เฮ้าส์ พี่ใหญ่แห่งวงการธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ที่เคยทำยอดโอนต่อปีสูงสุดกว่า 2 หมื่นล้านบาทมาแล้ว ปัจจุบันยังคงระดับใกล้เคียงไว้ได้ แม้จะลดลงเล็กน้อยเพราะการแข่งขันที่รุนแรงในตลาด
 
แต่สิ่งหนึ่งที่แลนด์ฯทำได้ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด คือการวัดผลการตลาดผ่านการใช้สื่อออนไลน์ทุกรูปแบบ พบมียอดขายจากลูกค้าที่เข้ามาผ่านสื่อออนไลน์เพิ่มเป็น 10-15% ในปัจจุบันหรือคิดเป็นยอขายที่ 2,000 ล้านบาท ที่ส่งผ่านมาจากเว็บไซต์หลักที่ www.lh.co.th และ www.homedd.com ซึ่งเป็นสื่อออนไลน์ยุคแรกๆ ของแลนด์ ที่เปิดเมื่อหลายปีก่อนสร้างความฮือฮา ในฐานะเว็บไซต์เกี่ยวกับบ้านและที่อยู่อาศัยของไทย ที่มีคนสนใจเข้าเป็นสมาชิก และสืบค้นข้อมูลเกี่ยวกับบ้านมากที่สุดเว็บหนึ่ง และล่าสุด www.lh.co.th ยังได้รางวัล Truehits Web Award 2010 ในฐานะ เว็บไซต์ที่มีผู้เยี่ยมชมสูงสุดในหมวดพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ด้วย
 
ทุกวันนี้แลนด์ฯ ยังคงใช้สองเว็บไซต์หลัก เป็นสื่อกลางในการให้ข้อมูลกับลูกค้า แต่ก็มีสื่อใหม่ตามกระแสนิยม ด้วยการสร้างตัวตนในโลกโซเชียลมีเดีย โดยเปิดเฟซบุ๊คในชื่อ www.facebook.com/landandhouses มาตั้งแต่ปลายปี 2552 พร้อมๆ กับทวิตเตอร์ในชื่อ  twitter.com/lhhome ผ่านมากว่าปีครึ่ง ศุภรัชฎ์ เผยว่า ตัวตนของแลนด์ในโลกโซเชียลมีเดีย เริ่มเป็นที่รู้จักในกลุ่มเล็กๆ เฉพาะคนที่สนใจเรื่องบ้านและที่อยู่อาศัย โดยในเฟซบุ๊คกระแสดีกว่า มีแฟนเพจกว่า 15,330 ราย ส่วนทวิตเตอร์มีผู้ติดตาม หรือ Followers กว่า 1,312 ราย ส่วนในยูทูบ ก็มีการโพสต์ภาพยนตร์โฆษณาใหม่ๆ ของแลนด์ฯ ให้คนได้รับรู้และแลกเปลี่ยนกัน
 
การตอบรับในเฟซบุ๊คดีกว่า เพราะฟังก์ชันการใช้งานของเว็บที่เอื้อในการสร้างเครือข่ายและผูกสัมพันธ์กับผู้คน ด้วยลูกเล่นที่ทำได้มากกว่า ทั้งการโพสต์ภาพ การเชิญชวนร่วมกิจกรรม และการแลกเปลี่ยนเรื่องราว ภาพ วีดิโอต่างๆ อีกทั้งข้อความที่สื่อสารก็สามารถใช้ความยาวได้มากกว่า การตอบสนองกับคนจึงใกล้ชิดกว่า ส่วนในทวิตเตอร์ เนื่องจากฟังก์ชันของเว็บให้ใช้ข้อความสั้นๆ ทำให้สื่อสารอาจไม่สะดวกนัก แต่ความดังของเว็บไซต์ไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน
 
"เราไม่เน้นขายของ หรือเสนอสินค้าใหม่อะไรผ่านโซเชียลมีเดียทั้งสองเว็บนี้ แต่จะเน้นให้ข้อมูลที่เป็นสาระ และทิปเล็กๆ น้อยๆ เรื่องบ้านเพื่อเป็นการแลกเปลี่ยนมากกว่า ขณะเดียวกันก็ตอบโต้สื่อสารกับลูกค้า โดยเน้นที่ความจริงใจ รวดเร็ว และตรงประเด็น เพราะการเป็นเวทีเปิดย่อมมีคนเข้ามาทั้งบวกและลบ แต่เมื่อมีเรื่องลบสิ่งแรกที่ต้องทำคือให้คำตอบชัดเจนด้วยเหตุผล อย่างเร็วที่สุดเพื่อสร้างความเข้าใจ"  
 
ผู้บริหารแลนด์ฯ ย้ำว่า การทำตลาดผ่านสื่อใหม่เหล่านี้ เป็นทั้งศาสตร์และศิลป์ ที่ต้องอยู่บนความพอดี ต้องเลือกให้เหมาะกับรสนิยมและไลฟ์สไตล์ผู้ใช้
 
นอกจากนี้ เมื่อมีเครื่องมือสื่อสารใหม่เพิ่มเข้ามาก็ต้องก้าวไปให้ทันท่วงที แนวคิดนี้เองเป็นที่มาของการวางแผง  "ibook"  L&H MAGAZINE สำหรับ ipad และ iphone เปิดให้ทุกคนที่สนใจสามารถดาวน์โหลดไปอ่านได้ฟรี ในรูปแบบอีบุ๊ค ซึ่งเตรียมเปิดตัวเป็นทางการในเร็วๆ นี้  ต่อจากนี้ไปทุกคนที่ใช้ ipad, iphone จะสามารถพกแมกกาซีนของแลนด์ ไปได้ทุกที่ทุกเวลา เราจะเป็นเพื่อนกันผ่านจอเล็กๆ แห่งนี้ ทำให้เข้าใจ และผูกพันกันง่ายขึ้น

ที่มา กรุงเทพธุรกิจ