คาร์เพลย์ เมื่อ "แอปเปิล" เฉือน "กูเกิล"
โดย ไพรัตน์ พงศ์พานิชย์ pairat@matichon.co.th
สงครามระหว่าง แอปเปิล กับ กูเกิล เจ้าของระบบปฏิบัติการไอโอเอสและแอนดรอยด์ เริ่มขยายออกจากแวดวงโทรศัพท์มือถือสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตออกไปเรื่อยๆ สมรภูมิล่าสุดของทั้งสองค่ายก็คือ รถยนต์นั่งส่วนบุคคล รางวัลสำหรับผู้ชนะคือตลาดใหม่ระดับโลกอีกตลาดที่ใหญ่โตไม่แพ้ตลาดสมาร์ทโฟนเลยทีเดียว
ทั้งสองค่ายซุ่มพัฒนาเรื่องนี้กันมาเงียบๆพักใหญ่ เป้าหมายสำคัญก็คือ ทำให้การใช้งานโทรศัพท์มือถือ และอื่นๆ ภายในรถยนต์ มีประสิทธิภาพมากขึ้นและปลอดภัยมากขึ้นกว่าที่เป็นอยู่ในเวลานี้
เรื่องนี้ระอุขึ้นมาแบบปัจจุบันทันด่วนเมื่อต้นปีที่ผ่านมา เมื่อกูเกิล ประกาศว่ากำลังร่วมกับค่ายผู้ผลิตรถยนต์ใหญ่ๆ หลายๆ ค่ายเพื่อทำให้โทรศัพท์แอนดรอยด์กลายเป็น "ส่วนประกอบ" ที่จำเป็นของรถยนต์ และหวังว่าระบบที่จะผนวกโทรศัพท์กับรถยนต์เข้าด้วยกันที่ว่านี้น่าจะแล้วเสร็จให้ลิ้มลองประสิทธิภาพกันภายในสิ้นปีนี้
เวลาผ่านไปยังไม่ครบสองเดือน แอปเปิลที่ไม่ยอมเสียเวลาโหมโรงแถลงเปิดตัว "คาร์เพลย์" ระบบปฏิบัติการไอโอเอสสำหรับรถยนต์นั่งออกมาเรียบร้อย แถมยังเป็นรูปธรรมมากกว่า เมื่อค่ายรถหรูอย่าง วอลโว่ ประกาศไล่หลังตามมาว่า รถสปอร์ตอเนกประสงค์รุ่นเอ็กซ์ซี 90 ของตนจะติดตั้ง "คาร์เพลย์" มาให้แล้วเสร็จจากโรงงาน เช่นเดียวกับเฟอร์รารี เอฟเอฟ และ เมอร์เซเดส เบนซ์ ที่ถึงแม้จะไม่ระบุรุ่น แต่เชื่อกันว่า ทั้งเอสคลาส และซีคลาส ทุกรุ่นจะติดตั้งระบบพร้อมใช้งานออกมาจากโรงงานผลิตเช่นเดียวกัน
เหตุผล สำคัญที่ทำให้ระบบที่ช่วยให้การใช้โทรศัพท์ในรถยนต์ง่ายและปลอดภัยกว่าเดิม เป็นที่ยอมรับอย่างรวดเร็วโดยเฉพาะจากบรรดาค่ายผู้ผลิตรถยนต์ เป็นเพราะข้อเท็จจริงสำคัญประการหนึ่งที่แม้แต่ค่ายรถก็ยอมรับกันเป็นนัยๆ นั่นคือ คนขับรถยุคใหม่ต้องการ "เชื่อมต่ออยู่ตลอดเวลา" แม้ในยามที่ต้องนั่งหลังพวงมาลัย ซึ่งพวกเขาไม่ควรทำอย่างนั้นด้วยเหตุผลด้านความปลอดภัยก็ตาม
ข้อเท็จจริงเรื่องนี้เห็นได้ชัดในสหรัฐอเมริกาที่คนอเมริกันมากถึง 2 ใน 3 รับสารภาพไว้ในการสำรวจของมูลนิธิเพื่อความปลอดภัยในการขับขี่ว่า ใช้โทรศัพท์มือถือขณะขับรถ 1 ใน 4 ของนักขับอเมริกันยอมรับด้วยซ้ำไปว่า ขับไปพลาง ส่งข้อความผ่านมือถือโต้ตอบไปพลาง แม้ว่า 96 เปอร์เซ็นต์ของคนรับรถในสหรัฐยอมรับหน้าชื่นตาบานว่า พฤติกรรมที่ว่านั้นเป็นภัยคุกคามต่อความปลอดภัยของการใช้รถใช้ถนน
หน้าที่สำคัญของ "คาร์เพลย์" ของค่ายแอปเปิล ที่ใช้ไอโอเอสเป็นพื้นฐานก็คือ ทำให้กระบวนการอย่างเช่นการรับ หรือการโทรศัพท์ ตลอดจนส่งข้อความ ง่ายขึ้นและไม่รบกวนหรือดึงเอาความสนใจไปจากการขับขี่มากมาย หรือนานนัก
องค์ประกอบของคาร์เพลย์นั้นใช้ศักยภาพของโทรศัพท์เดิมเป็นพื้นฐาน แต่ในขณะเดียวกันตัวรถยนต์ที่จะใช้ก็ต้องติดตั้งอุปกรณ์ที่จำเป็นเพื่อการนี้ด้วย ในระบบของคาร์เพลย์ รถยนต์ที่ใช้ระบบนี้ต้องติดตั้ง "ดิจิตอล แดชบอร์ด" ที่อุปมาง่ายๆ ว่า คือ จอคอมพิวเตอร์สำหรับโทรศัพท์ของเรานั่นเอง จอดิจิตอลบริเวณแผงหน้าปัดนี้จะเชื่อมต่ออยู่กับโทรศัพท์ แล้วก็ใช้การเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตของโทรศัพท์ในการทำงานของมัน ดังนั้น ถ้าลืมโทรศัพท์ไว้บ้าน ก็สามารถขับรถได้ตามปกติ เพียงแต่จะใช้งาน "คาร์เพลย์" ไม่ได้เท่านั้นเอง
ระบบ "คาร์เพลย์" ใช้งานด้วย "คำสั่งเสียง" เป็นหลัก มันจะเริ่มทำหน้าที่เมื่อเราเชื่อมต่อไอโฟน ที่ใช้ระบบปฏิบัติการไอโอเอส 7 ขึ้นไป (ไอโฟน 5, 5 ซี และ 5 เอส) เข้ากับระบบในรถยนต์ผ่าน "ไลท์นิ่ง คอนเนกเตอร์" (ที่แอปเปิลนำมาใช้แทนคอนเนกเตอร์ 30 พิน ก่อนหน้านี้) จากนั้นเราก็สามารถเรียกแผนที่, โทรศัพท์ไปหาใครต่อใครและเปิดเพลงจากในโทรศัพท์ฟัง โดยใช้คำสั่งเสียง หรือไม่ก็สามารถแตะปุ่มลัดบนแดชบอร์ดของรถยนต์
การปรากฏตัวของ "คาร์เพลย์" ดูเหมือนจะแสดงให้เห็นถึงความพร้อมด้านนี้ของแอปเปิลมากกว่ากูเกิล จนทำให้สามารถแซงหน้าเข้าป้ายยกแรกไปได้
แต่การเร็วกว่า ใช่ว่าจะชนะเสมอไป อย่างน้อยที่สุดแอนดรอยด์ก็พิสูจน์ข้อเท็จจริงเรื่องนี้ให้เห็นชัดเจนในสงครามสมาร์ทโฟนที่ผ่านมา
ขึ้นอยู่กับว่าจะ"ทำได้" อีกครั้งหรือไม่เท่านั้นเอง