ผู้เขียน หัวข้อ: แนะใช้ยาลดความดันโลหิต ต้องต่อเนื่องและตรงเวลา  (อ่าน 447 ครั้ง)

ออฟไลน์ webmaster

  • Administrator
  • medtech ปี เอก
  • *****
  • กระทู้: 3951
    • อีเมล์


องค์การเภสัชกรรมแนะนำให้ใช้ยาลดความดันโลหิตสูงอย่างต่อเนื่อง และตรงเวลาทุกวัน ระหว่างที่รักษาด้วยยาลดความดันโลหิต ควรรับประทานอาหารที่มีโซเดียมต่ำ เลี่ยงการรับประทานเค็ม งดการดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ ออกกำลังกายเป็นประจำ และพบแพทย์ตามนัดเป็นประจำ
ภญ.วนิชา ใจสำราญ รักษาการในตำแหน่งผู้อำนวยการองค์การเภสัชกรรมเปิดเผยว่า ยาลดความดันโลหิตเป็นยาที่ควบคุมความดันโลหิตให้อยู่ในระดับการรักษา แต่ไม่สามารถรักษาโรคให้หายขาดได้ ผู้ป่วยจึงต้องใช้ยาต่อเนื่องกันทุกวันเป็นเวลานาน การหยุดยาเองอย่างกะทันหันอาจเกิดผลเสียอย่างร้ายแรงได้ เช่น เส้นเลือดในสมองแตก อัมพฤต อัมพาต หรือเสียชีวิต
สำหรับวิธีรับประทานยาลดความดันโลหิต ควรรับประทานตามขนาดยาที่แพทย์สั่งให้ ตรงเวลาทุกวันในเวลาที่แน่นอนจึงจะได้ผลดี เช่น หลังแปรงฟันตอนเช้าหรือก่อนนอนของทุกๆ วัน ถ้าลืมรับประทานควรรับประทานทันทีที่นึกได้ แต่ถ้าใกล้ถึงเวลาของยามื้อต่อไป ให้งดมื้อที่ลืม   และรับประทานมื้อปกติในขนาดปกติ ห้ามรับประทานเพิ่มเป็น 2 เท่าอย่างเด็ดขาด เพราะอาจเป็นอันตราย ยาลดความดันบางชนิดเป็นยาออกฤทธิ์เนิ่น ไม่ควรบด หรือแบ่งหรือเคี้ยวเม็ดยานั้น เพราะจะทำให้คุณสมบัติของยาเสียไป ควรกลืนทั้งเม็ดพร้อมน้ำ 1แก้ว บางชนิดไม่ควรรับประทานร่วมกับอาหารไขมันสูง เช่น อาหารทอด อาหารที่มีกะทิ เป็นต้น บางชนิดอาจทำให้มึนงงง่วงซึมได้ จึงไม่ควรขับรถหรือทำงานกับเครื่องจักรที่อาจทำอันตรายได้ ผู้มีภาวะความดันโลหิตสูงควรทำตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัดในการรับประทานยาและการปฏิบัติตัว
รักษาการในตำแหน่งผู้อำนวยการองค์การเภสัชกรรม กล่าวต่อว่า ผู้รับประทานยาลดความดันโลหิตอาจมีอาการข้างเคียง เช่น รู้สึกหน้ามืดหรือเป็นลมเวลาลุกจากเก้าอี้หรือลุกจากเตียง ควรลุกอย่างช้าๆ หากยังมีอาการข้างเคียงมากควรพบแพทย์หรือปรับขนาดยาหรือเปลี่ยนยาชนิดอื่น ส่วนอาการข้างเคียงที่รุนแรง เช่น ผื่นขึ้นแดงและคันมาก เจ็บคอ มีไข้ หายใจขัด หอบ มีอาการบวมในที่ต่างๆ เช่น หนังตา ริมฝีปาก ลิ้น แขน ขา ใบหน้า ให้หยุดยาและรีบไปพบแพทย์ทันทีโดยไม่ต้องรอให้ถึงวันนัด
สำหรับข้อควรระวังอื่นๆ ได้แก่ ก่อนใช้ยาลดความดันโลหิต ควรแจ้งให้แพทย์ทราบว่า มีโรคประจำตัวอะไรอยู่ เช่น โรคตับ โรคไต โรคเบาหวาน หรือรับประทานยาอะไรอยู่ก่อน เช่น ยาขับปัสสาวะ ยาหรืออาหารที่มีโปแตสเซียมเสริม เป็นต้น นอกจากนี้ ไม่ควรดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ระหว่างที่รักษาด้วยยาลดความดันโลหิตและทุกครั้งที่ไปพบแพทย์ โรคอื่นๆ หรือทันตแพทย์ ควรแจ้งชื่อยาลดความดันโลหิตที่ใช้ให้แพทย์ทราบด้วย ที่สำคัญไม่ควรนำยาลดความดันโลหิตที่ใช้อยู่ให้คนอื่นรับประทานโดยไม่ผ่านการตรวจจากแพทย์ก่อน เพราะอาจทำให้เกิดอันตรายได้







ที่มา teenee.com