ผู้เขียน หัวข้อ: ใจสลาย! สามีเศร้าเมียท้องแล้วตาย คาใจหมอบอกเป็นแฝด แต่ชีพจรมีแค่หนึ่ง  (อ่าน 210 ครั้ง)

ออฟไลน์ webmaster

  • Administrator
  • medtech ปี เอก
  • *****
  • กระทู้: 3951
    • อีเมล์




จากกรณีมีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง โพสต์ภาพ และข้อความสงสัยสาเหตุการเสียชีวิตของภรรยา โดยระบุว่า “เมื่อรู้ว่าภรรยาท้อง จึงพาไปฝากครรภ์ที่โรงพยาบาลชื่อดังแห่งหนึ่ง ย่านบางนา และทราบว่าได้ลูกแฝด ภายหลังได้รับแจ้งจากหมอว่าภรรยาเป็นพาหะธาลัสซีเมีย และมีอาการช็อก เพราะน้ำตาลสูงถึง 451 รวมทั้งตั้งครรภ์นอกมดลูก จะต้องตัดมดลูกทิ้ง กระทั่งหมอแจ้งว่า ภรรยามีอาการไตวาย และตับไม่ทำงาน ก่อนจะเสียชีวิตในเวลาต่อมา ซึ่งตนอยากจะทราบว่า ตอนอัลตร้าซาวด์ครั้งแรก ทำไมไม่เห็นว่าเป็นแฝด แล้วทำไมมีชีพจรคนเดียวแล้วอีกคนไม่มี ทำไมไม่รีบจัดการ ทำไมไม่เห็นว่ามีน้ำในช่องท้อง ถ้าไม่แย้งให้ตรวจ จะเป็นยังไง ตอนที่ปวดท้องทำไมไม่ให้แอดมิด และให้ยาแก้แท้งมาทาน แล้วมดลูกที่ตัดออก ตัวอ่อนทั้ง 2 อยู่ไหน”

วันนี้ (8 มี.ค.) ทีมข่าวอมรินทร์ทีวี ได้เดินทางมาที่ศาลา 2 วัดสำโรงเหนือ ต.สำโรงกลาง อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ เพื่อพบกับ น.ส.นงนภัส อายุ 56 ปี แม่ของ น.ส.ศุภนุช หรือ “อีฟ” อายุ 23 ปี ผู้เสียชีวิต ซึ่งได้เปิดเผยว่า ตนเองเพิ่งทราบว่าลูกสาวตั้งครรภ์ 8 สัปดาห์ จนกระทั้ง วันที่ 3 มี.ค. ลูกสาวบอกว่า ปวดท้องมีเลือดออกจากช่องคลอด เมื่อไปตรวจ หมอบอกว่า ไม่ได้เป็นอะไร ก่อนจะให้ยามากิน ซึ่งตนก็ไม่ทราบว่า เป็นยาอะไร แต่ลูกสาวบอกเป็นยากันแท้ง

โดยปกติแล้วลูกสาว สุขภาพร่างกายแข็งแรง และไม่มีโรคประจำตัว ไม่เคยป่วยหนักจนเข้าโรงพยาบาล เว้นแต่อาหารเป็นพิษ และไข้หวัด ที่ผ่านมา ลูกสาวแข็งแรงมาก จะไปไหนมาไหนเองตลอด ไม่เคยป่วยหนักถึงขนาดให้รถพยาบาลมารับเลยสักครั้ง และอยากจะขอให้เห็นใจกันหน่อย เพราะตอนนี้ ทางครอบครัวยังรับไม่ได้กับการจากไปของลูกสาว ซึ่งผู้ตายเป็นลูกสาวคนเล็กที่รักมาก จึงอยากให้อีกฝ่ายมาดูแล ไม่ได้จะเอาเงินทอง แต่อยากให้มาเจรจากันบ้าง

ทั้งนี้แม่ของน้องอีฟ ยังบอกอีกว่า ลูกสาวเป็นเด็กน่ารัก ร่าเริง กระทั่งช่วงหลังย้ายไปอยู่บ้านแฟน ซึ่งตนบอกทุกครั้งว่า อย่าไปนาน เพราะแม่อยู่กับพ่อ 2 คน แม่เหงา ซึ่งน้องอีฟบอกว่า จะมาหาเรื่อยๆ พอมารู้ว่าป่วยเข้าโรงพยาบาล ตนก็ไปเฝ้าตลอด พยายามให้กำลังใจตลอด วินาทีที่ลูกสาวจากไปแล้ว ตนพยายามเรียกตลอดว่า “อีฟอย่าพึ่งไป ให้มาเอาแม่ไปแทน” ส่วนพ่อก็รับไม่ได้ เพราะมันเร็วเกินไป และพ่อจะบวชให้ 15 วัน

ด้าน น.ส.ประสิทธิ์ อายุ 33 ปี พี่สาวผู้ตาย กล่าวว่า ตนมาทราบว่า น้องอีฟตั้งครรภ์ ก็ดีใจมากที่จะได้อุ้มหลาน แต่พอมาทราบว่าน้องสาวป่วย และเสียชีวิต ตนเองเสียใจมาก ทำอะไรไม่ถูก เพราะมีกันแค่ 2 คนพี่น้อง มีอะไรก็จะปรึกษากัน ล่าสุดวางแผนว่าจะซื้อบ้านด้วยกัน น.ส.ประสิทธิ์ เปิดเผยอีกว่า น้องอีฟเป็นคนร่าเริง สุขภาพร่างกายแข็งแรง แทบจะไม่เคยเข้าโรงพยาบาลเลย อาจจะมีป่วยบ้าง เพราะอาหารเป็นพิษ และไข้หวัด ไม่เคยดื่มแอลกอฮอล์ หรือสูบบุหรี่เลยสักครั้ง







ขณะเดียวกัน ทางด้าน นายเกรียงไกร หรือ “กอล์ฟ” อายุ 29 ปี แฟนผู้ตาย กล่าวว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมด เหมือนที่โพสต์ในเฟซบุ๊ก ตนได้พาน้องอีฟ ไปฝากครรภ์ตามปกติ โดยอัลตร้าซาวด์ ทั้งหมด 4 ครั้ง ครั้งแรกหมออัลตร้าซาวด์ก่อนจะระบุว่าท้อง ส่วนครั้งที่สองหมอแจ้งว่าได้ลูกแฝด และครั้งที่3-4 นั้น ผู้ตายมีอาการวิกฤตแล้ว หมอเลยอัลตร้าซาวด์ เพื่อดูว่าเด็กปลอดภัยหรือไม่ ตอนนี้รู้สึกเสียใจมาก แต่คนที่อยู่ ก็ต้องดำเนินชีวิตต่อไปให้ได้ ทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด ซึ่งตนก็จะดูแลลูกอย่างเต็มที่ แต่ที่ห่วงตอนนี้คือจิตใจพ่อแม่ของอีฟ

ตนก็ไม่คิดว่าเรื่องราวที่ตนโพสต์นั้น จะมีคนสนใจและแสดงความคิดเห็นมากขนาดนี้ เลยอยากฝากถึงบุคคลที่จะพาแฟน หรือภรรยาไปฝากครรภ์ ควรจะตรวจสอบโรงพยาบาลให้ดีเสียก่อน ส่วนเรื่องคดีความ ตนยังไม่ได้คิด อยากจัดการเรื่องงานศพให้เรียบร้อย และดีที่สุดก่อน

นอกจากนี้ นายกอล์ฟ ได้อธิบายภาพอัลตร้าซาวด์ว่า หมอบอกว่าได้ลูกแฝด ซึ่งทุกอย่างปกติดี และเด็กปลอดภัย แต่ตนแปลกใจว่า ทำไมน้องอีฟ ถึงอาการแย่ลงเรื่อยๆ จึงเอาภาพอัลตร้าซาวด์ไปให้คนรู้จักดู ซึ่งแนะนำให้ถามหมอที่ตรวจ ว่าทำไมลูกมีชีพจรอันเดียว ที่จริงแล้วควรจะมี 2 อันไม่ใช่หรือ ซึ่งหมอตอบเพียงว่า “ฟ้องหมอไม่ใช่ทางออกที่ดีที่สุด”

ด้านโรงพยาบาลแห่งหนึ่ง ย่านบางนา แจ้งว่า “สำหรับเรื่องดังกล่าว จะต้องรอให้ฝ่ายบริหารประชุมสรุปก่อน จากนั้นจะแจ้งให้ทราบ”




ที่มา...https://news.sanook.com