ผู้เขียน หัวข้อ: อาหารบำรุงต่อมลูกหมาก  (อ่าน 1050 ครั้ง)

ออฟไลน์ tikky

  • Global Moderator
  • medtech ปี เอก
  • *****
  • กระทู้: 1985
อาหารบำรุงต่อมลูกหมาก
« เมื่อ: สิงหาคม 29, 2011, 02:43:55 pm »
อาหารบำรุงต่อมลูกหมาก

          สำหรับคุณผู้ชายทุกคนทราบไหมว่าเจ้าอวัยวะที่เรียกว่า “ต่อมลูกหมาก” ของคุณนั้นอยู่ตรงไหน และมีไว้ทำอะไร? ทำไมหลายๆ คน โดยเฉพาะผู้สูงอายุถึงมักจะมีปัญหากับต่อมลูกหมากให้ได้ยินกันบ่อยๆ เรามาทำความรู้จักกับต่อมลูกหมากกันก่อนสักนิดดีกว่า

ต่อมลูกหมากเป็นอวัยวะหนึ่งในร่างกายที่มีรูปร่างคล้ายๆ ถั่ววอลนัท ตำแหน่งที่ตั้งอยู่แถวๆ โคนของอวัยวะเพศชาย ทำหน้าที่ผลิตของเหลวที่ช่วยบำรุงเลี้ยงตัวอสุจิในน้ำอสุจิของคุณผู้ชาย อวัยวะส่วนนี้เป็นจุดหนึ่งที่เจ้าตัวร้ายอย่างเนื้องอก หรือมะเร็งมักจะเข้าแทรกแซงเสมอๆ จากการศึกษาที่ผ่านมาพบว่าสาเหตุของมะเร็งที่เกิดกับต่อมลูกหมากมักจะไม่ได้มาจากกรรมพันธุ์เหมือนอย่างส่วนอื่นของร่างกาย แต่มักจะเกิดจากการดำเนินวิถีชีวิตที่ไม่เหมาะสมของตัวเจ้าของ โดยเฉพาะวิถีการรับประทานอาหาร ซึ่งเป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้ชาวตะวันตกโดยเฉพาะอังกฤษ สแกนดิเนเวีย หรืออเมริกา มีโอกาสเป็นมะเร็งที่ต่อมลูกหมากกันได้มากกว่าเราๆ เพราะวิถีการกินอยู่ของเขาที่ต่างจากเรานั่นเอง

มีการศึกษาถึงสาเหตุของการเกิดมะเร็งต่อมลูกหมากว่า เกี่ยวข้องกับการกินอาหารที่มีไขมันสูงเป็นประจำ โดยเฉพาะคนที่ชอบกินเนื้อแดง นม เนย เป็นหลัก อันเป็นอาหารหลักของชาวตะวันตก สำหรับคนแถบเอเชียทั่วไปที่เน้นกินข้าว ปลา พืชผักต่างๆ นั้นพบการเกิดมะเร็งต่อมลูกหมากได้น้อยกว่า

....แต่อย่าเพิ่งชะล่าใจไปครับ...เพราะทุกวันนี้จากการผสมผสานทางวัฒนธรรมในโลกยุคโลกาภิวัตน์ที่แทบทุกประเทศแถบเอเชียในเมืองใหญ่ๆ ต่างก็มีร้านอาหารฝรั่ง หรือฟาสต์ฟู้ดขายสเต๊ก แฮมเบอร์เกอร์ พิซซ่า หรือไก่ทอดให้เรากินจนกลายเป็นอาหารประจำวันไปแล้ว ก็พบว่าตัวเลขของคนเอเชียที่เป็นมะเร็งต่อมลูกหมากเพิ่มขึ้นกว่าเมื่อก่อนมาก อีกหลักฐานหนึ่งจากผลวิจัยที่ยืนยันข้อนี้ก็คือตัวเลขคนเอเชียที่ย้ายถิ่นฐานไปปักหลักทำมาหากินในประเทศสหรัฐอเมริกา ยิ่งอาศัยอยู่นานก็ยิ่งมีอัตราการเกิดมะเร็งต่อมลูกหมากเพิ่มขึ้นสูงจนแทบจะใกล้เคียงกับชาวอเมริกันเลยทีเดียว เพราะการปรับเปลี่ยนอาหารการกินไปตามวัฒนธรรมท้องถิ่นนั่นเอง คราวนี้คงเห็นกันแล้วใช่ไหมครับว่าอาหารที่เรากินเข้าไปนั้นมีผลต่อสุขภาพของต่อมลูกหมากของเราขนาดไหน

ได้ฟังอย่างนี้คุณผู้ชายไม่ควรจะนิ่งนอนใจแล้วนะครับ ลองหันกลับมาพิจารณาอาหารที่คุณกินเข้าไปแต่ละมื้อกันดีกว่า หากคุณอยากจะมีสุขภาพดี ร่างกายแข็งแรงทำงานได้อย่างใจนึก ก็ต้องรู้วิธีบำรุงมันให้ถูกวิธี ข้อมูลจากการวิจัยล่าสุดยืนยันว่า การกินอาหารที่ปรุงจากมะเขือเทศ บร็อคโคลี หรือดอกกะหล่ำ ผลิตภัณฑ์จากถั่วเหลือง และพวกที่เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ เช่น วิตามินอี ซีลีเนียม ล้วนเป็นอาหารกลุ่มที่ช่วยพิทักษ์ต่อมลูกหมากของคุณให้มีสุขภาพดีปลอดจากมะเร็งทั้งสิ้น

มะเขือเทศ พระเอกต้านมะเร็งต่อมลูกหมาก
จากวารสารของสถาบันมะเร็งของสหรัฐอเมริกาฉบับเดือนมีนาคม 2545 ดร.เอ็ดวาร์ด จิโอวานนุกซี และคณะได้รายงานผลการศึกษาในผู้ชายที่กินซอสมะเขือเทศอย่างน้อย 2 ครั้งต่อสัปดาห์ มีอัตราความเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งต่อมลูกหมากลดลงถึง 20% เนื่องจากในอาหารที่ปรุงจากมะเขือเทศจะพบสารไลโคปีนที่มีคุณสมบัติช่วยต้านการเกิดอนุมูลอิสระได้ดีเยี่ยมในปริมาณสูง ซึ่งจะช่วยลดการทำลาย DNA จากปฏิกิริยาออกซิเดชัน อันเกิดจากอนุมูลอิสระในกระแสเลือด การทำลาย DNA นั้นจะเกิดไปพร้อมๆ กับการแปรรูปของเนื้อเยื่อที่ในที่สุดแล้วจะนำมาสู่การพัฒนาเซลล์มะเร็งให้เติบโต เมื่อลดการเกิดอนุมูลอิสระ ก็จะช่วยลดการเกิดมะเร็งลงไปได้

ดังนั้นเราอาจป้องกันมะเร็งได้โดยการกินอาหารที่ปรุงด้วยมะเขือเทศอย่างน้อยวันละครั้ง ไม่ว่าจะเป็นผลมะเขือเทศสด น้ำมะเขือเทศ ซุป หรือแม้แต่ซอสมะเขือเทศก็ยังดี ก่อนหน้านี้ที่มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดเคยศึกษาพบว่าผู้ชายที่กินมะเขือเทศในปริมาณ 6.5 มก.ต่อวัน หรือประมาณ 10 ครั้งต่อสัปดาห์ (ครั้งละประมาณครึ่งถ้วยตวง) จะเป็นปริมาณที่ได้ผลมากที่สุดในการป้องกันการเกิดมะเร็งครับ


บร็อคโคลี ผู้ช่วยตัวสำคัญต้านมะเร็ง
สารอาหารอีกตัวหนึ่งที่มีฤทธิ์ช่วยต้านมะเร็งได้แก่ 3,3’-diindolylmethane หรือ DIM ซึ่งนักวิทยาศาสตร์จากมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย ที่เบิร์คลีย์ ทำการวิจัยพบว่าการกินผักพวกบร็อคโคลี หัวกะหล่ำปลี หรือดอกกะหล่ำ ซึ่งมีฤทธิ์สูงในการต้านฮอร์โมนแอนโดรเจน จะช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็งที่ต่อมลูกหมากได้ โดยปกติแล้วฮอร์โมนแอนโดรเจนในเพศชายก็คล้ายๆ กับเทสโทสเตอโรนที่มีบทบาทสำคัญในการพัฒนาของเซลล์มะเร็งต่อมลูกหมากในระยะแรกๆ

เราสามารถรักษาสุขภาพของต่อมลูกหมากให้ดีได้โดยการกินผักบร็อคโคลี หรือดอกกะหล่ำ ร่วมกับผักใบเขียวอื่นๆ เป็นประจำทุกวัน นอกจากจะได้ DIM แล้วยังเป็นแหล่งของวิตามินเอ และซีที่สำคัญอีกด้วยครับ (อย่าลืมก่อนนำมาปรุงอาหารต้องล้างให้สะอาดจนแน่ใจว่าปลอดสารเคมีนะครับ)

เต้าหู้-ถั่วเหลือง รักษาสุขภาพต่อมลูกหมาก
จากการทดสอบในห้องทดลองพบว่าอาหารใดๆ ที่เป็นผลผลิตของถั่วเหลือง ไม่ว่าจะเป็นเต้าหู้ นมถั่วเหลือง ซีอิ๊วขาว (ซอสถั่วเหลือง) รวมทั้งซุปเต้าหู้แบบญี่ปุ่น (มิโซซุป) ล้วนแต่เป็นอาหารที่อุดมด้วยสารอาหารที่มีชื่อว่า ไอโซฟลาวอน (isoflavones) ซึ่งมีฤทธิ์ช่วยชะลอการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็งต่อมลูกหมาก เช่นเดียวกับ DIM ในบร็อคโคลี และด้วยเหตุที่อาหารประเภทนี้เป็นอาหารที่ชาวเอเชียหลายๆ ประเทศนิยมบริโภคกัน จึงเป็นสมมติฐานสำคัญที่ว่าทำไมคนเอเชียจึงมีอัตราการเกิดมะเร็งต่อมลูกหมากต่ำ

จะให้ได้ผลดี เราจึงควรกินอาหารที่ปรุงจากถั่วเหลืองให้ได้เป็นประจำทุกวัน วันละประมาณ 35-40 กรัม (จากบทความที่ตีพิมพ์โดยศูนย์มะเร็งต่อมลูกหมาก หลุยส์ วอร์ซชอร์ ของศูนย์การแพทย์ ซีดาร์-ไซนาย ในลอสแองเจลิส) นอกจากนี้ยังพบอีกว่าสารไอโซฟลาวอนในถั่วเหลืองยังช่วยป้องกันการเกิดโรคหัวใจที่ได้ผลดีอีกด้วย

ลืมไม่ได้...วิตามินอี และซีลีเนียม
ในปี 2541 ที่ประเทศฟินแลนด์มีการทำวิจัยกับนักสูบบุหรี่ที่เป็นมะเร็งปอดจำนวน 29,000 คน พบว่าวิตามินอีมีส่วนช่วยเพียงเล็กน้อยต่อการเกิดมะเร็งที่ปอด แต่เวลาเดียวกันก็ได้ผลที่น่าสนใจมากว่าวิตามินอีนั้นมีส่วนช่วยลดอัตราการเกิดมะเร็งที่ต่อมลูกหมากได้ถึง 32% เช่นเดียวกับซีลีเนียมที่นอกจากจะช่วยอัตราการเกิดมะเร็งผิวหนังแล้ว ยังพบว่าซีลีเนียมนั้นช่วยลดอัตราการเกิดมะเร็งต่อมลูกหมากได้ถึง 66% เลยทีเดียว

ทั้งซีลีเนียมและวิตามินอี ต่างก็เป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ทรงพลังเช่นเดียวกับไลโคปีนในมะเขือเทศ ซีลีเนียมนั้นจัดเป็นธาตุอาหารในกลุ่มอโลหะซึ่งพบได้ในอาหารหลายชนิดรวมทั้งน้ำ โดยเฉพาะในอาหารทะเล เนื้อสัตว์ และถั่วบราซิล ส่วนวิตามินอีนั้นพบมากในผักใบเขียว น้ำมันพืช ถั่ว และไข่แดง ปริมาณที่เราควรได้รับซีลีเนียมต่อวันอยู่ที่ประมาณ 55 ไมโครกรัม และวิตามินอีประมาณ 15 มก.ต่อวัน

เลือกกินอาหารที่มีประโยชน์แล้วอย่าลืมออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอสุขภาพดีจะอยู่คู่คุณไปอีกนาน

  ที่มาhttp://www.numwan.com