ผู้เขียน หัวข้อ: ล่าไอ้หื่นฝ่าเคอร์ฟิว บุกห้องนอนหญิงวัย 52 ปี พยายามข่มขืน  (อ่าน 113 ครั้ง)

ออฟไลน์ webmaster

  • Administrator
  • medtech ปี เอก
  • *****
  • กระทู้: 3951
    • อีเมล์




คนร้ายฝ่าเคอร์ฟิว พยายามข่มขืนหญิงวัย 52 ปี ถึงห้องนอน ก่อนสารภาพรักสุดหลอน เหยื่อดิ้นสู้สุดแรงวิ่งออกไปขอความช่วยเหลือเพื่อนบ้าน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า (8 พ.ค.) ได้รับร้องเรียนจากชาวบ้านใน ต.หนองปล่อง อ.ชำนิ จ.บุรีรัมย์ ว่ามีคนร้ายซึ่งเพิ่งพ้นโทษจากเรือนจำมาไม่นาน ได้ก่อเหตุบุกงัดหน้าต่างเข้าไปพยายามข่มขืนกระทำชำเรา ผู้หญิงที่อาศัยอยู่ในบ้านตามลำพัง หลังก่อเหตุคนร้ายยังลอยนวล จนเหยื่อไม่กล้าอยู่บ้านต้องไปขออาศัยนอนบ้านญาติพี่น้อง เพราะเกรงจะไม่ปลอดภัย

จากการสอบถาม นางเหลือ (นามสมมติ) อายุ 59 ปี ผู้เสียหาย เล่าให้ฟังว่า เมื่อเวลาประมาณเที่ยงคืนของวันที่ 6 พ.ค.ที่ผ่านมา ขณะกำลังนอนหลับอยู่ในห้องคนเดียว เพราะสามีและลูกชายอีก 2 คนก็ไปทำงานต่างจังหวัด จู่ๆ นายพงษ์เทพ อายุประมาณ 40–50 ปี ซึ่งอยู่หมู่บ้านใกล้กัน ได้งัดหน้าต่างแล้วบุกเข้าไปในห้องนอนกระโดดขึ้นคร่อมตัว แล้วจูบปาก

ด้วยความตกใจจึงดิ้นสู้ คนร้ายจึงกระชากผม ใช้มือบีบคอ และตบหน้า ทั้งขู่ว่าถ้าส่งเสียงร้องจะใช้มีดแทงให้ตาย ซึ่งคนร้ายได้ถอดกางเกงของตัวเอง และใช้กำลังถอดกางเกงของตนเองออกแล้ว และพยายามจะข่มขืน แต่ยังไม่สำเร็จเพราะตนเองดิ้นสู้ขัดขืน

สู้กันไปมาสักพักคนร้ายก็ทำท่าเหมือนจะหมดแรง ก็พูดบอกกับตนเองว่า “พี่ผมรักพี่ ขอนอนด้วย”ตนจึงพยายามตั้งสติแล้วบอกว่าขอไปปัสสาวะก่อน โดยตั้งใจว่าจะหนี แต่คนร้ายรู้ทันจึงไม่ปล่อย ทั้งขู่ว่าหากไปแจ้งตำรวจจะฆ่าให้ตาย และจะฆ่าลูกชายทั้ง 2 คนด้วย

ตอนนั้นกลัวมากไม่รู้จะทำอย่างไรดี จึงตัดสินใจดิ้นสู้สุดแรงจนหลุดออกมาได้ ก็รีบวิ่งไปขอความช่วยเหลือจากชาวบ้าน ในสภาพเนื้อตัวเขียวช้ำ ก่อนที่เพื่อนบ้านจะโทรแจ้งตำรวจ ส่วนคนร้ายก็วิ่งหนีออกไปทางหลังบ้านท่ามกลางความมืด

ทั้งนี้ ตนยอมรับว่ากลัวมากจนไม่กล้านอนบ้าน ต้องไปขออาศัยนอนบ้านญาติ เพราะกลัวจะไม่ปลอดภัยเนื่องจากคนร้ายข่มขู่เอาไว้ จึงอยากให้เจ้าหน้าที่เร่งติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดีให้ได้โดยเร็ว 

ด้าน นายแฉล้ม เตียงนิล ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน บอกว่า วันเกิดเหตุได้ยินเสียงนางเหลือ ผู้เสียหายวิ่งไปเคาะหน้าต่างตอนกลางดึก ด้วยอาการตื่นตกใจบอกว่ามีคนบุกเข้าบ้านพยายามใช้กำลังบังคับข่มขืน แต่พอมาดูพบว่าคนร้ายได้หนีไปแล้ว จึงให้ภรรยาโทรศัพท์แจ้งตำรวจ

จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นถือเป็นการกระทำที่อุกอาจไม่เกรงกลัวกฎหมาย เพราะก่อเหตุตอนกลางดึกทั้งที่เป็นช่วงประกาศเคอร์ฟิว ก็อยากให้ตำรวจเร่งติดตามตัวผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีให้ได้โดยเร็ว

เบื้องต้น ทางผู้เสียหายได้เข้าแจ้งความที่ สภ.ชำนิ ท้องที่เกิดเหตุแล้ว หลังจากแจ้งความตำรวจก็ได้ให้ไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลด้วย ขณะที่ตำรวจก็กำลังติดตามตัวผู้ก่อเหตุมาสอบสวนดำเนินคดี


ทีมา...https://www.sanook.com/news/8128602/