ผู้เขียน หัวข้อ: 6 สัญญาณอันตราย "ซีสต์ในรังไข่"  (อ่าน 1117 ครั้ง)

ออฟไลน์ admin

  • Administrator
  • medtech ปี เอก
  • *****
  • กระทู้: 2325
    • อีเมล์
6 สัญญาณอันตราย "ซีสต์ในรังไข่"
« เมื่อ: ตุลาคม 31, 2020, 10:09:35 am »



เรื่องภายในของคุณผู้หญิงเป็นเรื่องที่ต้องใส่ใจดูแลและหมั่นตรวจเช็กอยู่เสมอ โดยเฉพาะเรื่องถุงน้ำรังไข่ หรือเราเรียกกันว่า “ซีสต์รังไข่” ซึ่งไม่ใช่เรื่องไกลตัว เพราะบางครั้งอาจไม่มีสัญญาณเตือนล่วงหน้า ดังนั้นการเข้าใจเรื่องซีสต์รังไข่และหมั่นสังเกตตนเองจึงเป็นหนทางของการป้องกันและรับมือได้อย่างถูกวิธี

ซีสต์ คืออะไร?

แพทย์หญิงนภวรี จันทรวงศ์ แพทย์ผู้ชำนาญด้านสูติศาสตร์นรีเวชวิทยา ศูนย์สูติศาสตร์นรีเวชวิทยา โรงพยาบาลเวิลด์เมดิคอล (WMC) ระบุว่า ซีสต์ (cyst)  คือ การสะสมของน้ำ เป็นถุงน้ำ เป็นก้อนหรือตุ่มที่เกิดขึ้นตามร่างกาย โดยมีลักษณะเป็นถุงที่บรรจุอากาศ ของเหลว น้ำ ไขมัน หรือมีเนื้อเยื่อผสมอยู่ก็ได้ ซึ่งถือเป็นความความผิดปกติของร่างกาย ซึ่งสามารถก่อตัวขึ้นได้ในรังไข่ หากพบในวัยเจริญพันธุ์มักจะเป็นซีสต์ปกติที่หายได้ อีกส่วนหนึ่งก็อาจเป็นซีสต์ที่ผิดปกติที่จำเป็นต้องได้รับการรักษา แต่ถ้าพบในคนวัยใกล้หมดประจำเดือนอาจเป็นซีสต์ผิดปกติที่มีโอกาสเป็นหรือไม่เป็นมะเร็งได้

อาการของโรคซีสต์ในรังไข่

รังไข่ จะทำหน้าที่สร้างฮอร์โมนเพศหญิง เพื่อควบคุมเยื่อบุโพรงมดลูกจะช่วยรองรับการตั้งครรภ์ หรือเกิดประจำเดือนหากไม่มีการตั้งครรภ์เกิดขึ้น ขนาดของซีสต์ มีหลากหลายขนาดและลักษณะมีทั้งขนาดเล็กขนาดใหญ่ บางรายเป็นก้อนจำนวนน้อย บางรายตรวจพบเต็มท้อง ส่วนใหญ่ถุงน้ำในรังไข่หรือซีสต์ไม่มีอาการอะไรเลย ส่วนใหญ่จะตรวจพบจากการตรวจสุขภาพประจำปีของแพทย์ อาการของโรคจะขึ้นอยู่กับชนิดของถุงน้ำที่เกิดขึ้น บางรายอาจไม่มีอาการ หรือบางรายอาจมีอาการเพียงเล็กน้อย โดยสามารถสังเกตอาการได้ ดังนี้

        - ปวดท้องน้อยเรื้อรัง
        - ปัสสาวะบ่อยขึ้นหรือปัสสาวะลำบาก
        - มีอาการปวดประจำเดือน
        - มีอาการหน่วงๆ ตึงๆ ท้องน้อย หรือปวดท้องน้อยเฉียบพลัน
        - เจ็บหรือปวดขณะมีเพศสัมพันธ์
        - คลำพบก้อนในท้องน้อย

อันตรายของซีสต์ในรังไข่

ซีสต์ในรังไข่มีหลายชนิด ซึ่งมีความอันตรายแตกต่างกันขึ้นอยู่ว่าเป็นซีสต์ชนิดไหน ชนิดที่เกิดจากการทำงานของรังไข่ความร้ายแรงจะต่ำ ซึ่งอาจจะสามารถหายเองได้หรือบางชนิดสามารถรักษาได้ด้วยฮอร์โมน แต่หากถุงน้ำมีขนาดใหญ่หรือปล่อยไว้นาน อาจส่งผลให้ปวดท้องฉุกเฉินได้หรือถุงน้ำบางลักษณะอาจจำเป็นต้องได้รับการรักษาด้วยการผ่าตัด ดังนั้นถุงน้ำรังไข่มีความอันตรายตั้งแต่น้อยจนถึงเสี่ยงต่อมะเร็งได้

ตรวจภายใน ลดเสี่ยงอันตรายจากซีสต์ในรังไข่

แม้ว่าสาเหตุของมะเร็งถุงน้ำรังไข่ยังไม่เป็นที่ทราบแน่ชัดแต่ก็เป็นโรคที่พบได้บ่อย ดังนั้นการตรวจสุขภาพพร้อมกับการตรวจระบบสืบพันธุ์เพศหญิง จะทำให้ตรวจรังไข่และมดลูกอย่างละเอียดหากพบว่ามีถุงน้ำรังไข่ก็จะสามารถรักษาได้อย่างรวดเร็ว และยังช่วยให้พบความเสี่ยงของโรคอื่นๆ เพื่อป้องกัน หรือรักษาได้ทันท่วงทีก่อนลุกลามจนเจ็บปวดและยากต่อการรักษา


ที่มา...https://www.sanook.com/health/25831/