ผู้เขียน หัวข้อ: ผู้ใหญ่บ้านปกป้องลูกบ้าน เผชิญหน้าผู้ป่วยจิตเวชถูกจอบตีหัวแบะ สะโพกแหลก-แขนขาหัก  (อ่าน 196 ครั้ง)

ออฟไลน์ admin

  • Administrator
  • medtech ปี เอก
  • *****
  • กระทู้: 2325
    • อีเมล์



โดยเบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ร.ต.อ.ธีรวัฒน์ คำนินท์  รอง สว.(สอบสวน) สภ.ชุมพลบุรี ได้แจ้งข้อกล่าวหา พยายามฆ่าเจ้าหน้าที่ของรัฐในขณะปฏิบัติหน้าที่ บุกรุก และชิงทรัพย์ต่างกรรมต่างวาระ

ทางด้าน นางแพง ภรรยาผู้บาดเจ็บ อายุ 42 ปี กล่าวว่า เมื่อเวลาประมาณ 13.00 น. ของวันที่ 25 ก.พ.64 ตนได้รับโทรศัพท์จากพี่สาวของผู้ใหญ่บ้านว่า น้องชายถูกทำร้ายร่างกาย "จะรอดไหม" จึงได้ให้ตนรีบตามไปดูที่ รพ.ชุมพลบุรี โดยขณะนั้นตนรู้สึกเสียใจจนบอกไม่ถูก เข่าอ่อนหมด เพราะว่าภาระก็เยอะ ลูกสาวก็ อายุ 22 ปี ที่ยังเรียนอยู่มหาลัยที่ จ.ศรีสะเกษ ส่วนลูกชายคนเล็กทำงานอยู่ที่ท่าทรายในเขตพื้นที่ อายุ 17 ปี โดยทั้ง 2 เสียใจมากพูดอะไรไม่ออกเลย ซึ่งตนอยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินคดีกับคนนี้ให้ถึงที่สุด ไม่อยากให้ออกมาเป็นภัยต่อสังคมอีก

โดยทางด้านผู้ก่อเหตุเอง ตนไม่ได้รู้จักอะไรด้วยเลย โดยทางผู้บาดเจ็บเองขณะนี้นอนพักรักษาตัวอยู่ที่ห้อง ICU รพ.สุรินทร์ โดยที่อาการยังไม่ดีขึ้นเลย ซึ่งหมอบอกมาว่า หลอดคอที่ถูกของมีคม ทางโรงพยาบาลไม่สามารถเย็บได้ ต้องส่งรักษาต่อที่กรุงเทพฯ โดยผู้ก่อเหตุได้ใช้จอบที่มีอยู่ในกระท่อมจามไปที่หัว 2 แผล แขนหัก ขาหัก และมีรอยช้ำที่ท้องเกิดจากการถูกทุบ

นางสาวกาญจนา ลูกสาวผู้บาดเจ็บ อายุ 21 ปี เล่าว่า ขณะนั้นตนกำลังเรียนอยู่ที่ ม.ราชภัฏศรีสะเกษ ปีที่ 3 โดยที่มีญาติในหมู่บ้านได้โทรไปบอกตนว่าพ่อถูกทำร้าย โดยทราบว่าอาการหนักมาก หลังจากที่ทราบข่าว ตนเสียใจมาก เพราะว่าพ่อก็เป็นเสาหลักของครอบครัว และส่งเสียให้ตนเรียนหนังสือ ซึ่งตอนนี้ตนก็ยังมองไม่ออกว่าวันข้างหน้าจะเป็นอย่างไร ในเมื่อเสาหลักล้มป่วยไปแบบนี้ ตนยังคิดไม่ออกเลยว่า ด้านการเรียนในวันข้างหน้าจะเป็นอย่างไรต่อไป ยังไงก็จะสู้ต่อจนเรียนจบ จึงอยากจะฝากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาดูแลครอบครัวของตนด้วย

นายราชัน อายุ 50 ปี กล่าวว่า เมื่อวันที่ 25 ก.พ.ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 11.00 น. โดยในวันนั้น มีน้องผู้หญิงในหมู่บ้านเดียวกัน มาเลี้ยงวัวอยู่ในบริเวณที่เกิดเหตุ ได้วิ่งไปบอกตนว่า ผู้ก่อเหตุมาพักอาศัยอยู่ในกระท่อมนี้ มีท่าทางพิรุธน่าสงสัย คิดว่าอาจจะเป็นคนไม่ดี โดยได้นั่งมองผู้หญิงที่เลี้ยงวัวในลักษณะน่ากลัว น้องผู้หญิงจึงวิ่งไปบอกพวกตนที่กำลังทำงานก่อสร้างอยู่ในหมู่บ้าน ว่าให้พวกตนออกไปดูหน่อย เป็นคนตัวใหญ่ ลักษณะท่าทางไม่น่าไว้ใจ ตนกับพวกมากัน 4 คน ที่บริเวณเกิดเหตุ โดยขณะนั้นเห็นผู้ก่อเหตุกำลังลังขึ้นจากสระน้ำ ตนจึงได้สอบถามไปว่า "มาทำไม" ผู้ก่อเหตุบอกว่า มารื้อท่อประปาไปทุบทิ้ง ตนจึงบอกไปว่า มันเป็นที่มีเจ้าของ มายุ่งกับเขาทำไม ผู้ก่อเหตุได้เอามีดอีโต้ตบที่อกตัวเองบอกว่า "กูนี่แหล่ะเจ้าของ มึงจะเอาอะไรจากกู"

หลังจากนั้นตนเห็นลักษณะท่าทางไม่ค่อยดี คล้ายคนเมายา ซึ่งดูแล้วไม่ปลอดภัย พวกตนจึงได้เดินทางเข้าไปในหมู่บ้านแจ้งกับทางผู้ใหญ่บ้านและประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจให้มาลงพื้นที่ โดยที่ตนได้ย้ำกับทางผู้ใหญ่บ้านที่บาดเจ็บว่า ห้ามไปคนเดียว เพราะว่าเป็นบุคคลอันตราย หลังจากนั้นตนก็เห็นรถผู้บาดเจ็บออกมาได้นานพอสมควร ตนจึงเห็นผู้ต้องหาได้แย่งรถซาเล้งกับเด็กนักเรียน และได้ขับเข้ามาในหมู่บ้าน ตนจึงเอะใจและได้โทรศัพท์หาผู้ใหญ่บ้าน แต่ปลายทางไม่มีการรับสายเลย ตนและพวกจึงสงสัยได้เดินทางออกไปดูในกระท่อมที่เกิดเหตุจึงเห็นผู้ใหญ่บ้านนอนแน่นิ่งจมกองเลือดไปแล้ว โดยขณะนั้นผู้ใหญ่บ้านยังมีสติอยู่

นายราชัน ยังเล่าต่ออีกว่า ตามที่ตนได้รู้จักกับทางผู้ใหญ่บ้าน แกเป็นคนดี เป็นคนง่ายๆ ซึ่งเป็นเพื่อนกับตน และสนิทกันดี ตนไม่เชื่อว่าทางผู้ใหญ่บ้านจะมีปากเสียงกันก่อนเกิดเกตุ เพราะตนเห็นกับตาแล้วว่าบุคคลดังกล่าวเป็นคนไม่ปกติ


ที่มา...https://www.sanook.com/news/8352502/