เจ้าหน้าที่เขตห้ามล่าสัตว์ป่าพันท้ายนรสิงห์ เร่งเข้าดำเนินการช่วยเหลือและแก้ไขปัญหาตัวเงินตัวทอง ซึ่งเป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง แต่สร้างความเดือดร้อนในพื้นที่ จ.สมุทรสงคราม 3 วัน จับได้ 21 ตัว
นายศิวณัฐ สี่เหรียญน้อย ผู้ช่วยหัวหน้าเขตห้ามล่าพันธุ์สัตว์ป่าพันธ์ท้ายนรสิงห์ นำเจ้าหน้าที่เข้าดำเนินการจับสัตว์ป่าคุ้มครอง (เ***้ย) หรือ ที่ชาวบ้านเรียกกันว่าตัวเงินตัวทอง เพื่อช่วยเหลือและแก้ไขปัญหาสร้างความเดือดร้อนให้กับชาวบ้านในตำบลคลองโคน อำเภอเมืองสมุทรสงคราม โดยใช้วิธีวางแร้วซึ่งลักษณะคล้ายบ่วงดักจับสัตว์ ซึ่งเป็นเชือกวางขวางทางเดินเข้าไปหาเหยื่อล่อที่เป็นซากสัตว์เหม็นเน่า ขณะที่บริเวณริมทางเดินเจ้าหน้าที่จะใช้กิ่งไม้ในพื้นที่ปักเรียงไว้ไม่ให้ตัวเ***้ยเลี้ยวไปทางอื่น เมื่อตัวเ***้ยติดบ่วงเชือกยิ่งดิ้นเชือกก็จะยิ่งรัดแน่น โดยภารกิจครั้งนี้เจ้าหน้าที่พบเ***้ยตัวใหญ่สุดยาวกว่า 2 เมตร หนัก 35 กิโลกรัม ที่ติดแร้ว
จากนั้นเจ้าหน้าที่ใช้ห่วงคล้องคอแล้วลากขึ้นจากน้ำ ช่วยกันจับขึ้นมาพบฝั่งแล้วใช้เชือกมัดขาทั้ง 4 ข้าง นอกจากนี้ยังมีตัวเงินตัวทองอีกจำนวนหนึ่งพยายามปีนหนีขึ้นต้นไม้ เจ้าหน้าที้จึงใช้เชือกผูกไว้ ก่อนจะนำมารวมกันเพื่อนับจำนวน แล้วนำขึ้นรถกระบะ เพื่อนำไปปล่อยคืนสู่ธรรมชาติที่เป็นแหล่งอาศัยต่อไป สำหรับภารกิจครั้งนี้ใช้เวลา 3 วัน จับได้ 21 ตัว
สำหรับ "ตัวเ***้ย" หรือ "ตัวเงินตัวทอง" ถือเป็นสัตว์ชนิดที่ได้รับความนิยมในภาคธุรกิจ เนื่องจากสามารถนำเนื้อไปประกอบเป็นอาหารได้ ส่วนหนังก็นำไปแปรรูปเป็นกระเป๋าและเข็มขัดได้ จึงเกรงว่าอาจทำให้เกิดการสูญพันธุ์ ต่อมาได้มีประกาศให้ตัวเงินตัวทองเป็นสัตว์ป่าคุ้มครองจำพวกสัตว์เลื้อยคลานลำดับที่ 91 สงวน ห้ามเลี้ยง ซื้อ ขาย หรือครอบครอง ฝ่าฝืนมีความผิดมีโทษจำคุก 4 ปี ปรับ 40,000 บาท หรือต้องจำทั้งปรับ ชาวบ้านไม่กล้าทำอันตรายเพราะเกรงว่าจะทำผิดกฎหมาย ตัวเงินตัวทองจึงเพิ่มจำนวนมากขึ้นในจังหวัดสมุทรสงครามซึ่งพื้นที่ส่วนหนึ่งติดชายทะเล จึงมีอาหารประเภทกุ้ง หอย ปู ปลา ให้กินอย่างอุดมสมบูรณ์
ที่มา...
https://www.sanook.com/news/8390522/
