ผู้เขียน หัวข้อ: จริงหรือไม่? กิน “น้ำตาล” มากเกินไป เสี่ยง “แก่เร็ว”  (อ่าน 1639 ครั้ง)

ออฟไลน์ admin

  • Administrator
  • medtech ปี เอก
  • *****
  • กระทู้: 2325
    • อีเมล์



นอกจากน้ำตาลที่มากเกินไป จะเป็นศัตรูกับร่างกายในแง่ของการเพิ่มไขมันหนารอบเอว ต้นขา สะโพก แล้วยังเพิ่มความเสี่ยงในการเป็นโรคเบาหวาน และโรคอันตรายอื่นๆ แล้ว น้ำตาลยังเป็นศัตรูกับความงาม เพราะทำให้เราดูแก่เร็วกว่าเดิมด้วยจริงหรือ

ข้อมูลจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา หรือ อย. ระบุว่า น้ำตาลเป็นส่วนผสมที่นิยมนำมาใช้ในอาหารและเครื่องดื่ม มีรสชาติหวาน ถูกปาก แต่การบริโภคน้ำตาลปริมาณมาก ไม่เพียงแต่จะเพิ่มความเสี่ยงต่อการเป็นโรคเรื้อรังต่างๆ เช่น โรคอ้วน โรคเบาหวาน โรคหัวใจและหลอดเลือด เท่านั้น แต่ยังมีความสัมพันธ์กับการเกิดริ้วรอยและภาวะแก่ก่อนวัยอีกด้วย

โดยน้ำตาลที่บริโภคเข้าไปจะถูกย่อยเป็นหน่วยเล็กๆ และดูดซึมเข้ากระแสเลือดอย่างรวดเร็ว น้ำตาลในเลือดเหล่านี้สามารถจับกับโปรตีนอีลาสตินและคอลลาเจน เกิดเป็นสารประกอบที่มีชื่อว่า Advanced glycation end products หรือ AGEs ซึ่งส่งผลให้โปรตีนอีลาสตินและคอลลาเจนเสื่อมสภาพ ทำให้ความยืดหยุ่นของผิวหนังลดลง เกิดการหย่อนคล้อย

โดยทั่วไปแล้ว เมื่ออายุเพิ่มมากขึ้นการสะสมของ AGEs บริเวณผิวหนังจะเพิ่มมากขึ้นด้วย แต่การบริโภคอาหารที่มีปริมาณน้ำตาลสูง สามารถกระตุ้นกระบวนการดังกล่าวให้เกิดได้เร็วและมากขึ้น ทำให้เกิดริ้วรอยและแก่ก่อนวัย

ดังนั้น ควรบริโภคน้ำตาลในปริมาณที่เหมาะสม โดยองค์การอนามัยโลกได้แนะนำปริมาณน้ำตาลที่ควรบริโภคคือ ไม่ควรเกิน 6 ช้อนชาต่อวัน

วิธีลดการบริโภคน้ำตาลอย่างง่ายๆ

  1.ลดการบริโภคเครื่องดื่มที่ใส่น้ำตาลเป็นส่วนผสมจำนวนมาก เช่น ชา กาแฟที่ใส่น้ำตาล ช็อกโกแลต โกโก้ นมปั่น ชานม ชานมไข่มุก น้ำหวานต่างๆ รวมถึงน้ำผลไม้ และน้ำอัดลมด้วย
  2.ลดการบริโภคขนมจุบจิบ ขนมอบกรอบที่มีน้ำตาลสูงต่างๆ
  3.บริโภคผักผลไม้ให้มากขึ้น แต่ระมัดระวังผลไม้ที่มีน้ำตาลสูง ไม่ควรกินมากเกินไป เช่น มะม่วงสุก ทุเรียน เงาะ ขนุน น้อยหน่า ลำไย เป็นต้น

ขอขอบคุณ

ข้อมูล :สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.)

ภาพ :iStock

ที่มา...https://www.sanook.com/health/31201/