ผู้เขียน หัวข้อ: สาวหวิดโดนเพื่อนข่มขืน ใจเด็ดบีบเจ้าโลกสุดแรง กำแน่นลากพามาไขประตู  (อ่าน 276 ครั้ง)

ออฟไลน์ admin

  • Administrator
  • medtech ปี เอก
  • *****
  • กระทู้: 2325
    • อีเมล์



อุทาหรณ์นักท่องราตรี สาวออฟฟิตหวิดโดนข่มขืน ไปเที่ยวผับกับเพื่อนชายที่ไว้ใจ ก่อนถูกลวงเข้าบ้านพยายามกระทำชำเรา โดยฝ่ายหญิงใจเด็ดออกอุบายจะช่วยสำเร็จความใคร่ให้ ก่อนใช้มือบีบเจ้าโลกหนุ่มหื่น และฉวยโอกสหลบหนีมาได้

วันที่ 10 สิงหาคม 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นางสาวเอม (นามสมมติ) อายุ 24 ปี พนักงานออฟฟิศแห่งหนึ่งในเขตพื้นที่อำเภอเมืองสุรินทร์ จังหวัดสุรินทร์ ได้นำหลักฐานเข้าร้องเรียนกับสื่อมวลชนว่า ถูกเพื่อนชายที่ไว้ใจ ชื่อนายโก้ (นามสมมติ) อายุ 30 ปี ออกอุบายชวนไปเที่ยวผับ และไม่พากลับไปส่งที่หอพักคืน แต่กลับพาเข้าบ้านตัวเอง และพยายามกระทำชำเรา กระทั่ง นางสาวเอม ต้องออกอุบายหลอกล่อให้ผู้ก่อเหตุตายใจ โดยได้สัญญาว่าจะช่วยให้สำเร็จความใคร่ และได้ใช้มือข้างหนึ่งจับอวัยวะเพศของนายโก้ และใช้แรงทั้งหมดที่มีบีบสุดกำลัง จนผู้ก่อเหตุยอมปล่อยตัว นางสาวเอมจึงได้รีบวิ่งไปเปิดประตูห้องเพื่อหนีออกจากบ้านหลังดังกล่าว ปรากฏว่าประตูรั้วถูกล็อกไว้ จึงได้ปีนกำแพงหลบหนี ซึ่งมีความสูงประมาณ 1.5 เมตร จนถูกไม้ระแนงขูดที่น่องขาข้างซ้ายบาดเจ็บ และได้วิ่งไปขอความช่วยเหลือจากพลเมืองดีนำส่งหอพัก ช่วงเช้ามืดของวันอาทิตย์ที่ 7 สิงหาคม ที่ผ่านมา

และต่อมา นางสาวเอมได้นำหลักฐาน เป็นข้อความแชทและภาพความบาดเจ็บ เข้าพบ พ.ต.ท.แสงหิรัณย์ แก้วดี สว.สส.สภ.เมืองสุรินทร์ เพื่อแจ้งความใน เวลาประมาณ 20.00 น. ของวันอาทิตย์ที่ 7 สิงหาคม ที่ผ่านมา โดยทางตำรวจจะได้เรียกผู้ก่อเหตุมาสอบสวน และหากมีความคืบหน้าอย่างไร ผู้สื่อข่าวจะรายงานให้ทราบต่อไป

นางสาวเอม ได้เล่าเหตุการณ์ในคืนเกิดเหตุให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า ตนเองมีงานประจำทำอยู่แล้ว และมีงานเสริมคือโพสต์เฟซบุกขายโทรศัพท์มือสองจากร้านคนรู้จัก นายโก้ (ซึ่งทราบภายหลังว่าเป็นเพื่อนของแฟนเพื่อนตนเอง) ได้ทักเฟสบุ๊กมาหาตนถามหาร้านซ่อม เพื่อจะเอาโทรศัพท์ไปซ่อม ตนจึงให้รายละเอียดร้านไป จากนั้นนายโก้ก็แชทเข้ามาเรื่อยๆ ลักษณะคุยเล่นหยอกล้อกัน แต่ตนก็ไม่ได้คิดอะไร และนายโก้ได้ถามตนว่า มีแฟนหรือยัง ตนเองก็บอกไปว่าตนมีแฟนแล้ว ซึ่งแฟนตนอยู่ต่างจังหวัด ซึ่งหลังจากนั้นตนและนายโก้ก็เจอกันโดยบังเอิญบ่อยครั้ง และนายโก้ก็มักชักชวนตนเองไปเที่ยวอยู่เรื่อย

โดยในวันที่เกิดเหตุ ช่วงเย็นวันเสาร์ที่ 6 สิงหาคม ที่ผ่านมา หลังจากที่ตนเลิกจากงานประจำ ตนเองได้โพสต์เฟสบุ๊กส่วนตัวว่า “เลิกงานแล้ว ชวนออกหน่อย” นายโก้จึงได้ส่งข้อความมาทางกล่องข้อความในเฟซบุกส่วนตัวว่า “คืนนี้ไปเมาที่ไหนไหมครับ” ตนเองจึงตอบกลับไปว่า ไม่ได้ไปไหน เพราะไม่มีเงิน ไหนพี่เคยบอกว่าจะเป็นเจ้ามือเลี้ยงหนู นายโก้จึงได้โทรศัพท์มาหาตนผ่านแอพลิเคชั่นเฟสบุ๊ก พอดีตนติดสายคุยกับแฟนอยู่ จึงได้โทรกลับไปหานายโก้ และได้ชวนตนไปเที่ยวผับ ตนจึงขอเวลาตัดสินใจ พร้อมกับได้โทรศัพท์ไปชวนเพื่อนสาวที่สนิทกันไปด้วย และตอบตกลงไป หลังจากนั้น เวลาประมาณ 01.00 น. (เช้าวันอาทิตย์ที่ 7) นายโก้ก็ขับรถออกมารับตนและเพื่อนที่หอพัก ระหว่างนั่งรถก็คุยกันปกติ ส่วนใหญ่แล้วนายโก้จะคุยถึงแต่เรื่องที่ตัวเองอกหัก อยากมีเพื่อนกิน เที่ยว และจะย้ำเสมอว่า “พี่เป็นสุภาพบุรุษพอ ไม่ต้องกลัว”

โดยหลังจากเดินทางไปถึงผับแห่งหนึ่งซึ่งตั้งอยู่ใจกลางเมืองสุรินทร์ นายโก้จึงได้สั่งเครื่องดื่มมา 2 ชุด ของเขาเอง 1 ชุด และของตนกับเพื่อนอีก 1 ชุด โดยตนเองได้ลุกเดินไปเข้าห้องน้ำบ่อยครั้ง นายโก้จึงได้พยายามถามถึงตนกับเพื่อนตนว่า เพื่อนนอนที่ไหน และตนเองนอนที่ไหน โดยนายโก้ได้บอกกับเพื่อนตนไปว่า เขาจะนอนกับตนเอง ซึ่งก่อนหน้านี้ตนได้บอกไปกับนายโก้ไปว่า ตนนอนกับเพื่อนสาวคนดังกล่าว และหลังจากนั้น เวลาประมาณ 04.20 น. ผับใกล้ปิด นายโก้จึงได้ชักชวนกันไปกินหมูกระทะต่อ พอกินเสร็จก็ขับรถกลับ โดยได้เดินทางไปส่งเพื่อนของตนก่อน โดยนายโก้ได้รับปากกับเพื่อนตนว่า จะเดินทางไปส่งตนเอง ซึ่งช่วงนั้นก็เช้าจนเห็นพระออกบิณฑบาตแล้ว ซึ่งนายโก้ขับรถเร็วมาก และขับออกนอกเส้นทาง ตนจึงถามไปว่า จะพาตนไปไหน นายโก้ได้บอกกับตนว่า ไปบ้านพี่ก่อน ไปคุยเป็นเพื่อน พี่เหงา จึงเลี้ยวเข้าบ้าน และเดินไปล็อกประตูรั้ว


ตนเองเริ่มใจไม่ดีแล้ว พยายามจะหมุนเพื่อปิดกระจกรถไม่ให้นายโก้เข้าถึงตัวเองได้ แต่นายโก้ก็ได้พยายามเปิดประตูและถามตนว่า จะลงดีๆหรือจะให้พี่อุ้มลง ตนจึงบอกไปว่า เดี๋ยวหนูลงเอง อย่ามาแตะเนื้อต้องตัวหนู และตนก็ย้ำอยู่คำเดียวว่า ให้ไปส่งหนูที่หอ นายโก้ได้บอกกับตนว่า อยู่เป็นเพื่อนพี่ก่อน เหลือเบียร์อยู่ 2 กระป๋อง ตนเองจึงยอมเดินเข้าไปนั่งในบ้าน ตนเองก็ย้ำไปอีกว่า ไม่ดื่ม หนูจะกลับห้อง ไปส่งเดี๋ยวนี้ ตนจึงลุกเพื่อจะเดินออกจากบ้านหลังดังกล่าว นายโก้จึงได้กระชากชนเข้าไปในห้องนอน ตนเองเห็นท่าไม่ดีจึงได้ใช้มือจับกับขอบประตูไว้พร้อมใช้ขาเกี่ยวขอบประตู แต่สู้แรงผู้ชายไม่ไหว เพราะนายโก้เป็นคนตัวใหญ่แรงเยอะ ตนจึงล้มลงนอนไปกับพื้น นายโก้จึงได้ล็อกประตูและลากเก้าอี้มากั้นประตูอีกที เพื่อปิดทางไม่ให้ตนหนี

หลังจากนั้น นายโก้ก็ได้นั่งคุยเรื่องผู้หญิงของเขา และได้เดินมาหอมที่หัวของตน ตนก็พยายามขัดขืนไม่ให้นายโก้เข้าใกล้ โดยนายโก้ได้ดึงเอากระเป๋าสะพายของตนออก ซึ่งในนั้นมีโทรศัพท์อยู่ และก็ได้มีปากเสียงกัน นายโก้ก็เริ่มลวนลามตน ขณะนั้นตนกลัวจนร้องให้หนักมาก ตนเองก็พยายามขัดขืนตลอด ฝั่งนายโก้เองก็พยายามเข้ามาประชิดตัวตน แต่ตนก็พยายามขัดขืนจนเกิดการต่อสู้กัน นายโก้ได้พูดมาว่า ยิ่งหนูร้องให้พี่ก็อยากจะเอาชนะ ตนจึงได้รวบรวมสติและพูดออกไปว่า จะช่วยสำเร็จความใคร่ให้ นายโก้จึงได้ถอดเสื้อผ้าออกทั้งหมด และเดินไปเอาถุงยางอนามัยมา และเดินมาประชิดตัวของตน พยายามถอดกระดุมกางเกงตน ซึ่งในวันที่เกิดเหตุตนใส่กางเกงยืนขาสั้นแน่นพอดีจึงไม่สามารถถอดออกได้ง่าย และได้มีการขัดขืนป้องกันตัวเองอยู่ระยะหนึ่ง ตนจึงพูดไปว่า เดี๋ยวหนูจะช่วยพี่เอง ผู้ก่อเหตุก็ได้นอนลง

ตนจึงใช้จังหวะนี้จับและใช้แรงทั้งหมด บีบไปที่อวัยวะเพศของนายโก้ พร้อมพูดทั้งน้ำตาว่า หนูให้พี่ไปส่ง ทำไมพี่ไม่ไปส่งหนู ตนเองจึงบอกให้นายโก้ไปเปิดประตูให้ โดยนายโก้ขอร้องให้ตนปล่อยแต่ตนก็ไม่ปล่อยเพราะกลัวจะไม่ปลอดภัย ตนจึงเดินไปเปิดประตูเองโดยมือหนึ่งกำอวัยวะเพศของนายโก้ไว้แน่น และลากนายโก้เดินมาที่ประตูเพื่อใช้อีกมือหนึ่งเปิดประตูออกจากห้อง ขอให้เอากุญแจเปิดประตูรั้วหน้าบ้านให้ นายโก้จึงบอกมาว่า ประตูไม่ได้ล็อก ตนไม่เชื่อ จึงหาโอกาสปล่อยมือและรีบวิ่งออกจากบ้านหลังดังกล่าว

ขณะนั้นตนเองไม่ได้คิดอะไรเลย คิดแต่จะทำยังไงให้หลุดรอดออกไปได้ โดยประตูรั้วบ้านก็ถูกล็อกไว้ และมีความสูงท่วมหัวตน ตนจึงได้ปีนข้ามรั้วกำแพงบ้านหลังดังกล่าว และตกลงใส่โคลนสภาพเปื้อนโคลนทั้งตัว ขณะนั้นตนทั้งกลัว ตัวสั่น และร้องให้เดินออกไปถึงปากซอย เจอพลเมืองดี 2 คน และได้ขอความช่วยเหลือ ต่อมาไม่นาน นายโก้จึงขับรถตามมาและบอกว่าจะไปส่ง ตนจึงพูดไปว่า หนูไม่ไปกับพี่หรอก พี่จะข่มขืนหนู และหนูก็จะไปแจ้งความด้วย โดยพลเมืองดีจะอาสาพาไปส่งเอง ซึ่งตนเองก็ได้บอกไปกับนายโก้ว่า หนูรู้จักกับพี่เขา (พลเมืองดี) ผู้ก่อเหตุจึงรีบขับรถออกไปเลย

หลังจากนั้นพลเมืองดีคนดังกล่าวก็ได้ขับรถมาส่งตนเองที่หอพัก และได้ถามว่าเป็นอะไร ตนจึงเล่าให้ฟังทั้งหมด โดยหลังจากที่เกิดเรื่องขึ้น นายโก้ก็ยังตามตื้อด้วยการโทรหาตน และพยายามเข้ามาหาตนให้ได้ ตนจึงได้ติดต่อไปยังเพื่อนที่รู้จักนายโก้ โดยเพื่อนก็บอกมาว่า ผู้ชายคนนี้เจ้าชู้ ให้ตนระวังตัวไว้ด้วย โดยก่อนหน้านี้ตนได้รู้จักกับนายโก้ มาเกือบ 1 ปีแล้ว จากการพูดคุยเรื่องโทรศัพท์ และยังเป็นเพื่อนของแฟนเพื่อนตนด้วย ดูจากภายนอกเป็นคนนิสัยดี พูดจาดี เจอกันในที่เที่ยวบ่อยครั้ง พูดจาจนตนไว้ใจว่าเป็นสุภาพบุรุษ เป็นคนไว้ใจได้ โดยที่ตนตนกล้ารับปากไปเที่ยวกับผู้ก่อเหตุครั้งนี้ เป็นเพราะความไว้ใจ และไปกับเพื่อนไม่ได้ไปคนเดียว ตนจึงอยากจะฝากเตือนเป็นอุทาหรณ์สำหรับผู้หญิงทุกคน แม้แต่คนที่ไว้ใจที่สุด ยังไว้ใจไม่ได้เลย


ที่มา....https://www.sanook.com/news/8606246/