ผู้เขียน หัวข้อ: บทบาท 'เซ็นทรัลแล็บไทย' ตรวจสอบสินค้าเกษตร  (อ่าน 3420 ครั้ง)

ออฟไลน์ vt

  • medtech ปี เอก
  • ******
  • กระทู้: 530
    • อีเมล์


บริษัท ห้องปฏิบัติการกลาง (ประ เทศไทย) จำกัด หรือเซ็นทรัลแล็บไทย (Central Lab Thai) เป็นห้องปฏิบัติการที่ใหญ่ที่สุดของไทยที่มีศักยภาพในการให้บริการครบวงจรด้านการตรวจสอบและวินิจฉัยผลิตภัณฑ์สินค้าเกษตร อาหารและสิ่งแวดล้อม ซึ่งได้มาตรฐานสากลและเป็นที่ยอมรับทั้งในและต่างประเทศ ปัจจุบันเซ็นทรัลแล็บไทยได้ขยายและพัฒนาขีดความสามารถของประเทศในด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีที่เกี่ยวกับความปลอดภัยของอาหาร เพื่อบริการตรวจสอบวิเคราะห์สินค้าเกษตรและอาหารทั้งนำเข้าและส่งออก ถือเป็นกลไกสำคัญที่ช่วยสร้างความเข้มแข็งพร้อมเพิ่มโอกาสทางการค้า และช่วยผลักดันให้ประเทศไทยสามารถแข่งขันได้ในเวทีการค้าโลก
   
นายเอกชาติ นาคาไชย กรรมการผู้จัดการ บริษัท ห้องปฏิบัติการกลาง (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ขณะนี้เซ็นทรัลแล็บไทยได้พัฒนาศักยภาพและขยายขอบข่ายการให้บริการครบวงจรด้านการตรวจสอบและวินิจฉัยผลิตภัณฑ์เกษตร อาหารและสิ่งแวดล้อมเพิ่มขึ้น โดยได้เตรียมเปิดให้บริการตรวจสอบเพิ่มอีก 2 ด้าน ได้แก่ บริการตรวจสอบและรับรองคุณภาพอากาศภายในอาคาร ขณะเดียวกันยังมี บริการทดสอบประสิทธิภาพวัตถุอันตรายทางการเกษตรเพื่อการขึ้นทะเบียน เพื่อสนับสนุนผู้ประกอบการที่จะขึ้นทะเบียนวัตถุอันตรายรอบใหม่ ให้เป็นไปตามพระราชบัญญัติวัตถุอันตราย พ.ศ. 2535 แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2551 ซึ่งจะเริ่มมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่  23  สิงหาคม 2554 นี้เป็นต้นไป
   
สำหรับ บริการทดสอบและวิเคราะห์ วัตถุอันตรายทางการเกษตรเพื่อการขึ้นทะเบียน นั้นเซ็นทรัลแล็บไทยมีนักวิทยา ศาสตร์และทีมงานที่มีความเชี่ยวชาญและประสบการณ์สูง  พร้อมเครื่องมืออุปกรณ์ที่ทันสมัยระดับโลก ซึ่งสามารถทดลองสารพิษตกค้างของวัตถุอันตรายทางการเกษตรได้ทั้งในห้องปฏิบัติการและแปลงทดลอง เพื่อกำหนดระยะเวลาการเก็บเกี่ยวสำหรับการขึ้นทะเบียนได้ ทั้งยังสามารถทดลองประสิทธิภาพและวิเคราะห์สารพิษตกค้างของวัตถุอันตรายทางการเกษตรได้ไม่น้อยกว่า 50 ชนิด
   
ส่วน การตรวจวัดคุณภาพอากาศภายในอาคาร ซึ่งปัจจุบันผู้ประกอบการเริ่มตื่นตัวในเรื่องนี้มากขึ้น เนื่องจากปัญหาสภาพแวดล้อมในอาคารได้ส่งผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชนสูงขึ้น ส่วนใหญ่มักเกิดปัญหาเกี่ยวกับโรคระบบทางเดินหายใจ เช่น โรคตึกป่วย (SBS) หรือโรคภูมิแพ้ต่าง ๆ โดยเฉพาะในอาคารที่มีคนอยู่อาศัยจำนวนมากหรือหนาแน่น และระยะเวลานาน อาทิ กลุ่มห้างสรรพสินค้า โรงภาพยนตร์ และสถานบันเทิงต่าง ๆ เป็นต้น  ทาง เซ็นทรัลแล็บไทยจึงได้เตรียมความพร้อมการให้บริการตรวจสอบและรับรองคุณภาพอากาศภายในอาคาร เพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการแก้ไขปัญหาดังกล่าวด้วย
   
ที่ผ่านมาประชาชนส่วนใหญ่ได้ให้ความสำคัญและสนใจคุณภาพอากาศภายนอกอาคารเป็นหลัก  ปัจจุบันควรหันมาใส่ใจคุณภาพอากาศภายในอาคารด้วยเพราะมีผลต่อสุขภาพของประชาชนเช่นเดียวกัน ซึ่งการทดสอบคุณภาพอากาศในอาคารมีตัวชี้วัดถึง 14 ดัชนี เช่น ปริมาณออกซิเจน คาร์บอนไดออกไซด์ คาร์บอนมอนอกไซด์ และโอโซน เป็นต้น
   
...ดังนั้นผู้ประกอบการจำเป็นต้องมีการดูแลและรักษาคุณภาพอากาศให้เหมาะสมกับผู้อยู่อาศัย หรือทำงานภายในอาคาร ขณะเดียวกันยังช่วยปกป้องประชาชนหรือผู้บริโภคที่เข้ามาใช้บริการอาคารด้วย…
   
นอกจากมีห้องแล็บกลางอยู่ในกรุงเทพฯ แล้วเซ็นทรัลแล็บไทยยังมีห้องแล็บสาขาอีก 5 แห่งคือที่ ขอนแก่น ฉะเชิงเทรา เชียงใหม่ สงขลา และสมุทรสาคร ซึ่งล้วนมีศักยภาพสูงและสามารถให้บริการตรวจสอบได้รวดเร็วเช่นกัน.