ผู้เขียน หัวข้อ: อดีตเศรษฐีให้ทานจนหมดตัวต้องอาศัยวัด  (อ่าน 2661 ครั้ง)

ออฟไลน์ vt

  • medtech ปี เอก
  • ******
  • กระทู้: 530
    • อีเมล์


คุณยายวัย 92 ปี อดีตภรรยา "ขุนอุปติพงษ์" ขายบ้านเดินสายทำบุญสร้างวัดจนหมดตัว ต้องอาศัยวัดอยู่นาน 24 ปี เพราะไม่มีลูกดูแล ล่าสุดป่วยเป็นอัมพฤกษ์ ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ ล่าสุด อบจ.-เทศบาลนครเชียงใหม่ยื่นมือเข้าช่วย

เมื่อเวลา 4 พฤษภาคม น.ส.ทัศนีย์ บูรณุปกรณ์ รองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ พร้อมคณะสมาชิกสภาเทศบาลนครเชียงใหม่ เดินทางไปยังวัดเจดีย์หลวงวรวิหาร อ.เมือง เพื่อเยี่ยมนางสีลา อุปติพงษ์ อายุ 92 ปี ที่อาศัยอยู่ที่วัดมานาน และป่วยเป็นโรคอัมพฤกษ์ ไม่สามารถดูแลตัวเองได้ และไร้ญาติเหลียวแล

พระกฤษฎา กิตติสัมปัณโณ พระลูกวัด กล่าวว่า คุณยายสีลา ถือเป็นปูชนียบุคคลที่สร้างประโยชน์ ให้แก่เมืองเชียงใหม่ ในอดีตคุณยายสีลา เป็นภรรยาของขุนอุปติพงษ์ หรือนายศาสตร์ อุปติพงษ์ คหบดี ชาวกรุงเทพมหานคร ที่ย้ายมาทำธุรกิจโรงพิมพ์และออกหนังสือพิมพ์ขายใน จ.เชียงใหม่ โดยนายศาสตร์ได้ช่วยเหลือราชการหลายประการในปี 2467 สมัยรัชกาลที่ 6 จนได้ตำแหน่งเป็นกรมการพิเศษ จ.เชียงใหม่  ในขณะนั้นขุนอุปติพงษ์ยังได้เปิดโรงภาพยนตร์ศรีเวียง ซึ่งเป็นโรงหนังแห่งแรกของเชียงใหม่ ขณะที่นางสีลากับสามีเป็นคนใจบุญมักจะบริจาคเงินช่วยการกุศลกับเจ้านายฝ่ายเหนืออยู่บ่อยครั้งจนเป็นที่รักของชาวเชียงใหม่

พระกฤษฎา กล่าวอีกว่า ต่อมาขุนอุปติพงษ์เสียชีวิต นางสีลาจึงได้รับมรดกเป็นบ้านและที่ดินบริเวณถนนช้างคลาน ด้วยความที่ชอบทำบุญ นางสีลาได้ขายบ้านหลังดังกล่าวให้แก่คุณนายลัดดา พันธาภา (เจ้าของ ลัดดาแลนด์) เป็นเงิน 4 ล้านบาท พร้อมกับรื้อบ้านไม้แล้วนำไม้ไปสร้างกุฏิให้แก่วัดแสนฝาง อ.เมือง จ.เชียงใหม่ และนำเงินส่วนหนึ่งไปบริจาคสร้างวิหารวัดเจดีย์หลวงและสร้างศาลาสำหรับบำเพ็ญกุศลศพตั้งชื่อว่า "ศาลาอุปติพงษ์" ซึ่งทางวัดยังคงใช้ศาลานี้จนถึงปัจจุบัน

พระกฤษฎา กล่าวต่ออีกว่า หลังจากนั้นนางสีลาได้ตระเวนใช้เงินจากการขายบ้านและเงินที่สะสมไว้ไปทำบุญตามสถานที่ต่างๆ จนกระทั่งเงินหมด ต่อมาในปี 2530 วัดเจดีย์หลวงจึงจัดพื้นที่บริเวณข้างวัด เป็นบ้าน ไม้หลังเล็กๆ ให้นางสีลาได้อยู่อาศัย พร้อมช่วยเหลือค่าใช้จ่ายตามสมควร โดยนางสีลาใช้ชีวิตเพียงลำพังกับสุนัขและแมวที่เลี้ยงไว้ 20 ตัว มานาน 24 ปีแล้ว เพราะไม่มีลูก กระทั่งช่วงก่อนเทศกาลสงกรานต์ พระในวัดไม่เห็นนางสีลาออกมารับอาหารติดต่อกัน 3 วัน จึงเข้าไปดูก็พบว่านางสีลาป่วยเป็นอัมพฤกษ์ ไม่สามารถขยับตัวได้ จึงช่วยกันนำส่งโรงพยาบาล ซึ่งแพทย์บอกว่าไม่สามารถรักษาได้ ล่าสุดทางสถานสงเคราะห์บ้านธรรมปกรณ์ จ.เชียงใหม่ จะรับไปดูแล

น.ส.ทัศนีย์  กล่าวว่า อบจ.และเทศบาลนครเชียงใหม่พร้อมให้การช่วยเหลืออย่างเต็มที่ เพราะถือว่าคุณยายสีลาได้สร้างประโยชน์ให้แก่เมืองเชียงใหม่มามากมาย โดยนางสีลาจะได้รับเงินเบี้ยยังชีพคนชราเดือนละ 500 บาท รวมกับเงินช่วยเหลือผู้พิการ อีกเดือนละ 500 นอกจากนี้จะได้รับเงินสำหรับอุปการะครอบครัวที่ขาดรายได้จากเทศบาลนครเชียงใหม่ปีละ 6,000 บาท แบ่งเป็น 3 งวด ขณะที่โรงพยาบาลเทศบาลนครเชียงใหม่ก็พร้อมให้การรักษาคุณยายสีลาตามอาการตามสิทธิบัตรทอง อย่างไรก็ตาม หากชาวเชียงใหม่ท่านใดที่ต้องการช่วยเหลือสามารถติดต่อกับทางวัดเจดีย์หลวงหรือเทศบาลนครเชียงใหม่ได้