ความคืบหน้าอาการอาพาธของ พระเทพวิทยาคม หรือหลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ เจ้าอาวาสวัดบ้านไร่ อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา ซึ่งพักรักษาอาการอาพาธวัณโรคปอด อยู่ที่ห้องผู้ป่วยพิเศษ วีไอพี9821 อาคารเฉลิมพระเกียรติ ชั้น8 รพ.มหาราชนครราชสีมา ตั้งแต่เมื่อวันที่ 4พฤษภาคม2554 โดยคณะแพทย์ได้ให้ยารักษาวัณโรคมากว่า 1สัปดาห์ที่ผ่านมาแล้วนั้น
ล่าสุด เวลา 12.00น.วันที่ 15พฤษภาคม คณะแพทย์ได้ให้อาหารเหลวกับหลวงพ่อคูณ ทางสายยางขนาดเล็กผ่านช่องจมูกด้านขวา ลงหลอดอาหารสู่กระเพาะอาหารเป็นมื้อที่3 หลังจากเมื่อวันที่ 14พฤษภาคมที่ผ่านมา คณะแพทย์พบว่า หลวงพ่อคูณ ฉันอาหารได้น้อยกว่าปกติและไม่ฉันอาหารมา 1-2วันแล้ว ส่วนหนึ่งมาจากผลข้างเคียงของการให้ยารักษาโรควัณโรค ทำให้มีอาการเบื่ออาหาร แต่คณะแพทย์ต้องการให้หลวงพ่อได้รับอาหารอย่างต่อเนื่อง เพราะร่างกายค่อนข้างอ่อนแอ และมีน้ำหนักตัวน้อยเกินไป หากไม่ให้อาหารด้วยวิธีนี้ อาจทำให้อาการทรุดลงไปอีก
นอกจากนี้ ยังให้ยาปฏิชีวนะฆ่าเชื้อทางหลอดเลือดดำ โดยใส่ที่ข้อเหนือเท้าซ้ายแทนที่แขน เนื่องจากบริเวณที่เจาะเดิมคือที่แขน มีอาการอักเสบ โดยทางคณะกรรมการวัดบ้านไร่และลูกศิษย์ผู้ใกล้ชิด ยังคงขอความร่วมมือกับสื่อมวลชนไม่ให้เผยแพร่ภาพหลวงพ่อคูณ ขณะมีสายยางอาหารเหลวสอดเข้าหลอดอาหารผ่านทางจมูก เนื่องจากไม่อยากให้ศิษยานุศิษย์เกิดความวิตกกังวล
ทั้งนี้ เวลา 11.00น.วันที่ 15พฤษภาคม คณะแพทย์ที่ให้การรักษา หลวงพ่อคูณ นำทีมโดยนพ.พินิจจัย นาคพันธุ์ หัวหน้าคณะแพทย์ที่ให้การรักษา แพทย์ผู้เชี่ยวชายโรคหัวใจและหลอดเลือด รพ.มหาราชฯ แพทย์ประจำตัวหลวงพ่อคูณฯ พร้อม นพ.อนุชิต นิยมปัทมะ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคปอด รพ.มหาราชฯ ได้เข้าตรวจอาการหลวงพ่อคูณ โดยใช้เวลาประมาณ 10นาที ซึ่งหลวงพ่อคูณ ยังคงนอนซมอยู่บนเตียง ในสภาพร่างกายที่อ่อนเพลียอย่างมาก
นพ.พินิจจัย เปิดเผยว่า อาการตอนนี้ในภาพรวมถือว่า มีอาการแย่ลง คือฉันภัตตาหารเองได้น้อย เนื่องจากอาการของโรควัณโรคและผลข้างเคียงที่เกิดจากยารักษา จึงจำเป็นต้องให้อาหารเหลวผ่านทางสายยางที่สอดเข้าไปตามหลอดอาหารลงกระเพาะโดยตรง ซึ่งผลการตอบสนองของหลวงพ่อคูณ มาถึงตอนนี้เป็นที่น่าพอใจระดับหนึ่ง ซึ่งคณะแพทย์จะให้อาหารเหลวผ่านทางสายยางต่อไปจนกว่า หลวงพ่อคูณ จะเริ่มมีความรู้สึกอยากอาหาร คาดว่าน่าจะใช้เวลาอย่างน้อย 1สัปดาห์
นอกจากนี้ อาการที่น่าเป็นห่วงอีกอย่าง คือ เมื่อวันที่ 13พฤษภาคมที่ผ่านมา คณะแพทย์ได้เช็คเลือดผลพบความผิดปกติที่ตับของหลวงพ่อคูณและค่อนข้างเป็นที่แน่นอนแล้วว่า ตับของหลวงพ่อคูณมีอาการอักเสบ เชื่อว่าน่าจะมาจากผลข้างเคียงของยารักษาวัณโรค ที่คณะแพทย์ให้อยู่ คณะแพทย์จำเป็นต้องตัดสินใจปรับเปลี่ยนยาวัณโรคใหม่ทันที
ส่วนการรักษาอาการซึ่งความจริงแล้วสิ่งที่เกิดขึ้น ไม่ได้เป็นอะไรนอกเหนือจากที่เราคาดคิด เนื่องจากในห้วงนี้ยังอยู่ในช่วง 30วันอันตราย ที่เป็นช่วงเริ่มตนการให้ยารักษาวัณโรคที่อาจจะเกิดผลข้างเคียงได้ทุกเมื่อ เพราะท่านอาจจะมีภาวะแทรกซ้อน ทั้งจากตัววัณโรคปอดเอง จากยารักษาวัณโรคที่ให้และตัวโรคของหลวงพ่อเองด้วย ซึ่งมีโรคประจำตัวหลายอย่าง โดยเฉพาะเรื่องหัวใจและทางสมอง โดยรวมแล้วเราต้องเฝ้าดูอาการอย่างใกล้ชิดตลอดเวลา
"สำหรับยาเบาหวานยังคงให้เป็นครั้งเป็นคราวตามสถานการณ์ แต่ตอนนี้ยังไม่เป็นปัญหาในการควบคุม ทั้งนี้ คณะแพทย์เราทุกคนมั่นใจว่า รับมือในการรักษาได้ "นพ.พินิจจัย กล่าว
