พันเอกโมอัมมาร์ กัดดาฟี ผู้นำลิเบีย ออกแถลงการณ์ผ่านทางสถานีโทรทัศน์ที่มีการถ่ายทอดสดไปทั่วประเทศวานนี้ ประกาศจะต่อสู้กับศัตรูจนตาย ภายหลังเครื่องบินรบขององค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือหรือนาโต้ โจมตีทางอากาศในกรุงทริโปลี อย่างหนัก นอกจากนั้น กัดดาฟี กล่าวว่า ชาวลิเบียมีความแข็งแกร่งกว่าจรวด และแข็งแกร่งกว่าเครื่องบินรบ แม้กระทั่งเสียงของประชาชนก็ยังดังกว่าเสียงระเบิด
อย่างไรก็ตาม กัดดาฟี บอกว่า เขาพร้อมที่จะปล่อยกองกำลังติดอาวุธที่มีกำลังพลระหว่าง 250,000 ถึง 500,000 คน เพื่อปราบปรามฝ่ายกบฏ ที่ยึดครองพื้นที่ด้านตะวันออกของลิเบีย คำกล่าวของผู้นำลิเบียมีขึ้น ท่ามกลางการโจมตีทางอากาศของนาโต้ต่อเป้าหมายต่างๆในเมืองหลวง รวมทั้งเป้าหมายที่เป็นบ้านพักของกัดดาฟีในเขตบับ อัล-อาซิซิย่า
ทั้งนี้ กัดดาฟี ปรากฏตัวทางโทรทัศน์ครั้งสุดท้ายเมื่อวันที่ 30 พฤษภาคม ซึ่งเป็นภาพที่เขาพบปะกับประธานาธิบดีจาค็อบ ซูม่า ผู้นำแอฟริกาใต้ สำหรับการโจมตีกรุงทริโปลีของนาโต้ ยังดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง นับตั้งแต่เริ่มการโจมตีทางอากาศเมื่อเดือนมีนาคม ก่อนหน้านี้ นายอันเดอร์ส ฟ็อกซ์ ราสมุสเซ่น เลขาธิการนาโต้เปิดเผยว่า เท่าที่ผ่านมาการโจมตีทางอากาศ ได้สร้างความเสียหายหรือทำลายเป้าหมายทางทหารเกือบ 1,800 แห่ง รวมทั้งศูนย์ควบคุมและกองบัญชาการราว 100 แห่ง ตลอดจนคลังแสงกว่า 700 แห่ง และรถถัง รถหุ้มเกราะลำเลียงพล เกือบ 500 คัน
อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวต่างประเทศในลิเบียรายงานว่า แทบไม่พบหลักฐานเลยว่า นาโต้เป็นสาเหตุการเสียชีวิตจำนวนมากของพลเรือนจากการโจมตีทางอากาศตามที่รัฐบาลลิเบียกล่าวอ้าง
ล่าสุดเช้าวันนี้ เกิดเหตุระเบิดอย่างรุนแรงรอบๆ บริเวณที่พักของกัดดาฟี แต่ยังไม่มีรายงานความเสียหายใดๆ แต่นายมุสซา อิบราฮิม โฆษกรัฐบาลลิเบีย กล่าวว่า เมื่อวันอังคาร เครื่องบินรบของนาโต้โจมตีทางอากาศอย่างหนัก ในกรุงตริโปลี ทำให้ประชาชนเสียชีวิต 31 ศพ โดยเป้าหมายโจมตีหลักอยู่ที่บริเวณบ้านพักของกัดดาฟี.
ข้อมูลโดย : เดลินิวส์
