ผู้เขียน หัวข้อ: 4 เหล่าทัพประสานยันเป็นกลางไม่ยุ่งการเมือง!  (อ่าน 1445 ครั้ง)

ออฟไลน์ webmaster

  • Administrator
  • medtech ปี เอก
  • *****
  • กระทู้: 3951
    • อีเมล์

ผบ.สส.ประชุมผู้บัญชาการเหล่าทัพ ออกตัวยันทุกเหล่าวางตัวเป็นกลาง ไม่ยุ่งเกี่ยวการเมือง ปัดไม่สนยิงหัวคะแนนภูมิใจไทย ด้าน ผบ.ตร.ระบุยุทธการ 315 ต้องดำเนินการต่อไม่จำเป็นต้องลดบทบาททหาร ส่วนคดียิงนายก อบจ.ลพบุรี ยังไม่ชี้ชัดประเด็นสังหารต้องรอผลสรุปจาก พล.ต.อ.ภานุพงศ์ อีกที
      
       วันนี้ (17 มิ.ย.) เมื่อเวลา 10.00 น.ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) มีการประชุมผู้บัญชาการเหล่าทัพ ครั้งที่ 5/2554 โดยมี พล.อ.ทรงจิตติ จักกาบาตร์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด (ผบ.สส.) เป็นประธานในที่ประชุม พร้อมด้วย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) พล.ร.อ.กำธร พุ่มหิรัญ ผู้บัญชาการทหารเรือ (ผบ.ทร) พล.อ.อ. อิทธพร ศุภวงศ์ ผู้บัญชาการทหารอากาศ (ผบ.ทอ) และ พล.ต.อ.วิเชียร พจน์ โพธิ์ศรี ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ร่วมประชุม
      
       พล.อ.ทรงกิตติ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมถึงกรณีที่กองทัพที่ถูกหลายฝ่ายมองว่ากองทัพวางตัวไม่เป็นกลางว่า กรณีดังกล่าวขอยืนยันชัดเจนว่า ทหารทุกนายทุกเหล่าทัพยังวางตัวอย่างเป็นกลางไม่ยุ่งเกี่ยวทางการเมืองแต่การเมืองอย่างใด และไม่จำเป็นต้องกำชับเพิ่มเพราะเป็นเรื่องที่ทหารทุกนายทราบดีอยู่แล้ว เรื่องเป็นกลางไม่ต้องมาพูดแล้ว ทุกคนรู้หน้าที่
      
       เมื่อถามถึงกรณีคนร้ายยิง นายสุบรรณ จิระพันธุ์วานิช นายก อบจ.จ.ลพบุรี ซึ่งเป็นยิงหัวคะแนนของพรรคภูมิใจไทย พล.อ.ทงกิตติ กล่าวว่า ยิงหัวใคร ตนไม่สน
      
       “ผมเป็นหัวหน้ากองทัพ คุมกำลัง 400,000 นาย กองทัพจะเป็นยังไงให้ดูที่ผม ผมเป็นยังไงกองทัพเป็นอย่างนั้น” ผบ.สส.กล่าว
      
       ขณะที่ พล.ต.อ.วิเชียร กล่าวว่า ที่ประชุม ผู้บัญชาการเหล่าทัพ ได้คุยกันเรื่องการเลือกตั้ง ส.ส.กำชับให้ข้าราชการทั้ง 4 เหล่าทัพวางตัวเป็นกลางเป็นเรื่องที่รู้กันอยู่แล้วว่าต้องทำอย่างไร ซึ่งการที่หลายฝ่ายมองว่า กองทัพเข้าไปแทรกแซงเรื่องการเมืองนั้น เป็นเพียงการหยิบยกข้อดีใส่ตนเองและนำข้อด้อยให้กับฝ่ายตรงข้ามเพื่อให้เกิดข้อได้เปรียบเสียเปรียบทางการเมืองเท่านั้น หน้าที่ของ ศรส.ลต.ตร.จะจับตาดูอย่างเข้มข้นเพื่อเฝ้าระวังไม่ให้เกิดความรุนแรง ส่วนยุทธศาสตร์ 315 ยืนยันว่า การปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายทำตามหน้าที่เพื่อแก้ปัญหายเสพติด ไม่จำเป็นต้องลดบทบาททหารในการปฏิบัติการ 315 ครั้งนี้ และการปฏิบัติการก็ต้องดำเนินต่อไป ทั้งนี้สิ่งที่ทำแต่แรกเพื่อไม่ให้ถูกครหาว่าทหารเข้ามาแทรกแซง คือ การไม่ขอกำลังทหารมาดูแลความปลอดภัยหน่วยเลือกตั้ง โดยใช้แต่กำลังตำรวจล้วนๆ ยกเว้นพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และ 4 อำเภอใน จ.สงขลา ที่เป็นพื้นที่ในความดูแลของกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน
      
       ส่วนความคืบหน้าคดียิง นายสุบรรณ จิระพันธุ์วาณิช นายก อบจ.ลพบุรี หัวคะแนนของพรรคภูมิใจไทย พล.ต.อ.วิเชียร กล่าวว่า เบื้องต้นพบว่าผู้ตายได้ร้องขอกำลัง ตำรวจเข้าไปดูแลความปลอดภัยก่อนที่จะถูกสังหาร ซึ่งมีการส่งกำลังเข้าไปตลอดเวลาที่อยู่ในพื้นที่ ซึ่งพื้นที่จ.ลพบุรีนั้น อยู่ในข่ายพื้นที่เฝ้าระวังอยู่แล้ว เนื่องจากพบความเคลื่อนไหวของกลุ่มมือปืนรับจ้างในพื้นที่ สำหรับนายสุวรรณ ผู้ตาย มีปัญหาความขัดแย้งทั้งเรื่องการเมือง และส่วนตัว ยังไม่สามารถชี้ชัดประเด็นสังหารครั้งนี้ ซึ่งการที่ผู้ตาย หรือกรณีผู้สมัครคนอื่นๆออกนอกพื้นที่จึงเป็นเรื่องยากในการดูแลความปลอดภัย ส่วนปมสังหารยังไม่ตัดประเด็นใดทิ้งหรือให้น้ำหนักไปที่ประเด็นใดเป็นพิเศษ ต้องผลสรุปจาก พล.ต.อ.ภานุพงศ์ สิงหรา ณ อยุธยา รองผบ.ตร.(สส 1)
      
       ส่วนกรณีที่ พ.ต.ท.ทักษัณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์สื่อต่างประเทศ ว่า มีการปองร้าย นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ปาร์ตี้ลิสต์หมายเลข 1 พรรคเพื่อไทย และเป็นห่วงว่าน้องสาวจะไม่ปลอดภัย พล.ต.อ.วิเชียร ยืนยันว่า ไม่มีข้อมูลนี้แต่อย่างใด