ที่มา สยามบันเทิง
ด้วยความที่เป็นสาวลูกครึ่ง จึงทำให้นางเอกสาว “เฌอเบลล์” ลัลณ์ลลิน เตจะสาเวศซ์ มีความเป็นตัวเองสูง ซึ่งก่อนหน้านี้เจ้าตัวก็ได้ออกมายอมรับตามตรงว่าจมูกที่โตเกินหน้าเกินตานั้น นางเอกสาวแอบไปศัลยกรรมฉีดฟีลเลอร์อัพจมูกมา แต่ผลปรากฏว่าจมูกโตจนนางเอกสาวต้องรีบเอาออก ซึ่งเจ้าตัวยอมรับว่าเป็นเรื่องที่ผิดพลาดมากในชีวิต จนกระทั่งผู้สื่อข่าวได้เจอตัวนางเอกสาวเฌอเบลล์อีกครั้ง จึงถามถึงการศัลยกรรมเพิ่มความสวยของนางเองสาว ว่ามีแพลนจะเสริมเติมแต่งส่วนไหนอีกหรือเปล่า
“ไม่เอาแล้ว มันเจ็บมากค่ะ แค่เรื่องจมูกที่ฉีดฟีลเลอร์นั้น เฌอเบลล์ถือว่าเป็นบทเรียนแล้ว ต่อจากนี้ไม่ทำอะไรอีกแล้ว แค่ไม่สบายแล้วโดนฉีดยาเฌอเบลล์ก็ไม่อยากเอาแล้วค่ะ ไม่ได้เป็นคนกลัวเข็มนะคะ เป็นคนกลัวเจ็บค่ะ กลัวว่าจะต้องเจ็บนาน เจ็บบ่อยๆ ซ้ำๆ ที่เดิมค่ะ (เข็ดแล้ว?) ใช่ค่ะ เข็ดมากๆ ไม่มีแพลนจะขึ้นเขียง เติมแต่งตรงไหนแน่นอน เพราะแค่จมูกที่เป็นฟีลเลอร์มันยังเจ็บขนาดนี้ แล้วถ้าเป็นศัลยกรรมแบบซิลิโคน เวลาแก้มันก็จะต้องยัดเข้าไป ดึงออกมาใหม่ ซึ่งแบบนั้นน่ากลัวมาก มันคงจะเจ็บกว่านี้มาก (จมูกเข้าที่?) ค่อยๆ ดีขึ้นเรื่อยๆ ค่ะ ตอนนี้พยายามให้ฟีลเลอร์มันสลายตัวค่ะ คือฟิลเลอร์เวลาเจอความร้อนมันค่อนข้างที่จะสลายตัวได้เร็ว เฌอเบลล์ก็เลยเอาน้ำอุ่นประคบทุกวัน เพื่อให้จมูกกลับมาเป็นปกติเร็วๆ เพราะเฌอเบลล์เป็นคนจมูกโด่งอยู่แล้ว พอเข้าที่แล้วมันก็ยังคงเป็นจมูกที่โด่งเหมือนเดิมค่ะ”
