ไฟใต้ระอุอีก คนร้ายกระจายกำลังจุดบึ้ม-วางเพลิงป่วนทั่วจังหวัดชายแดนใต้พร้อมกัน 20 จุด ทั้งนราฯ และยะลา ฐาน ทพ.ที่ตลาดล่าง สุไหงปาดี ถูกบุกโจมตี ดับ 1 สาหัส 1 เผาโรงเรียนและร้านค้ารวม 4 แห่ง แถมโปรยเรือใบสกัดไม่ให้เจ้าหน้าที่เข้าสกัดไฟ โก-ลกบึ้มสนั่นเมืองรวม 5 จุด บาดเจ็บระนาว ดับคาที่ 1 นักวิชาการไทย-มาเลย์เสวนาหนทางสันติภาพปัตตานี ระบุคนในพื้นที่ต้องเลิกโทษคนอื่น แต่หันมาดูตัวเองว่าต้องการอะไรกันแน่ ก่อนร่วมกันหาทางออกที่แท้จริง
เมื่อเวลา 19.30 น. วันที่ 11 พ.ค. เกิดเหตุระเบิดขึ้นหลายแห่งในพื้นที่ จ.นราธิวาส ประกอบด้วย อ.ยะหา 2 จุด อ.บันนังสตา 2 จุด อ.ตากใบ คนร้ายขว้างระเบิดใส่บริเวณด่านศุลกากรตากใบ มีผู้บาดเจ็บเล็กน้อย 5 ราย และเกิดเหตุระเบิดขึ้นในถังขยะในบริเวณด่านศุลกากรอีก 1 จุด แต่ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ
ส่วนที่พ.ต.อ.แวสาแม สาและ ผกก.สภ. สุไหงโก-ลก รับแจ้งมีเหตุคนร้ายลอบวางระเบิด จำนวน 3 จุดภายในเขตเทศบาลเมืองสุไหงโก-ลก โดยจุดที่ 1 ข้างร้านอาหารจันตุหลี ถนนลูกเสืออนุสรณ์ ซอย 7 พบเศษซากชิ้นส่วนของระเบิดแสวงเครื่องที่คนร้ายประกอบ ใส่ไว้ในรถจักรยานยนต์ฮอนด้า รุ่นคลิก ทะเบียน ขขฉ 9 นราธิวาส ตกกระจายเกลื่อนพื้นถนน ส่วนร้านอาหารจันตุหลีถูกแรงอัดของระเบิดเสียหายยับเยิน และนอกจากนี้ยังมีบ้านเรือนของชาวบ้านได้รับความเสียหายอีกจำนวนหนึ่ง
ส่วน จุดที่ 2 บริเวณข้างโชว์รูมจำหน่ายรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า ของบริษัท พิธานพาณิชย์ จำกัด ถนนบุษยพันธ์ เป็นระเบิดแสวงเครื่องที่ประกอบใส่กล่องเหล็กไปวางไว้หน้าประตูข้างโชว์รูม ทำให้ได้รับความเสียหายเล็กน้อย ส่วนจุดที่ 3 หน้าโชว์รูมจำหน่ายรถจักรยานยนต์ฮอนด้าและรถยนต์โตโยต้าของบริษัท พิธานพาณิชย์ จำกัด ถนนประชาวิวัฒน์ เป็นระเบิดแสวงเครื่องที่ประกอบ ในรถจักรยานยนต์ยี่ห้อยามาฮ่า รุ่นสปาร์ค ทะเบียน ขขฉ 44 นราธิวาส โดยบนถนนพบศพนางสาลิกา มามะ นอนจมกองเลือดเสียชีวิตอยู่บนถนน และมีผู้ได้รับบาดเจ็บ 1 รายถูกนำตัวส่งรักษา ร.พ.สุไหงโก-ลก
จาก นั้นอีก 30 นาที เกิดเหตุระเบิดตามขึ้นมาอีก 3 จุด โดยจุดที่ 4 หน้าโชว์รูมจำหน่ายรถจักรยานยนต์ซูซูกิ ถนนเจริญเขต เป็นระเบิดแสวงเครื่องประกอบใส่กล่องเหล็กหนัก 5 ก.ก. จุดที่ 5 บริเวณคูระบายน้ำริมถนนเอเชีย 18 ข้างวงเวียนนกสันติภาพ พบเป็นระเบิดแสวงเครื่องหนัก 5 ก.ก. ที่คนร้ายซุกไว้ในคูระบายน้ำริมถนน และจุดที่ 6 บริเวณโคนเสาไฟฟ้าริมถนนทรายทอง ตรงข้ามสวนสาธารณะสิรินธร เป็นระเบิดแสวงเครื่องหนัก 5 ก.ก.
โดยเหตุระเบิดทั้ง 6 จุดมีผู้ได้รับบาดเจ็บรวมทั้งสิ้น 9 ราย ประกอบด้วย 1.น.ส.ซูไฮดา บินตาเละ 2.นายไกรสร แสงจันทร์ 3.นายซุลกิฟลี แวมะมิง 4.นายพงษ์ศักดิ์ แก้วกาญจนา 5.น.ส.นูรซาดา สามะแอ 6.ด.ช.อาดัม (ไม่ทราบนามสกุล) 7.น.ส.อัมพร แซ่เลง 8.นาง ลีเมาะ มามะนอ และ 9.นายรอซาลี สาและ ทั้งหมดถูกนำตัวส่งรักษาที่ ร.พ.สุไหงโก-ลก
เวลาไล่เลี่ยกัน พ.ต.อ.จงใจรักษ์ คงเผ่า ผกก.สภ.สุไหงปาดี รับแจ้งมีเหตุคนร้ายลอบวางเพลิงจำนวน 3 จุดในเขตเทศบาลตำบล ปะลุรู โดยจุดแรกที่โรงเรียนบ้านโคกตา พบเพลิงกำลังลุกไหม้อาคารเรียนไม้ขนาด 2 ชั้นจนวอดไปทั้งหลัง จุดที่ 2 โรงเรียนอิสลามบำรุง พบเพลิงลุกไหม้อาคารเรียนไม้ขนาด 1 ชั้นจนวอดไปทั้งหลังเช่นกัน และจุดที่ 3 ที่บ้านพักห้องแถวของชาวบ้านริมถนนจารุเสถียร พบเพลิงกำลังลุกไหม้บ้านพักไม้ 2 ชั้นวอดไปรวม 5 คูหา
ซึ่ง ขณะที่ส.ต.ต.วัชรินทร์ ขันติพันธ์ สังกัด สภ.สุไหงปาดี กำลังเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุถูกคนร้ายดักซุ่มยิงได้รับบาดเจ็บจำนวน 1 นาย ทราบชื่อคือ อส.สะมะแอ เจ๊ะดอเลาะ ได้รับบาดเจ็บที่บริเวณลำตัวถูกนำตัวส่งรักษา ร.พ.สุไหงโก-ลก นอกจากนั้นคนร้ายเข้าโจมตีฐานปฏิบัติการ นปพ.ตลาดล่าง ต.ปะลุรู เป็นเหตุให้ อส.เสียชีวิต 1 นาย บาดเจ็บสาหัส 1 นาย
ก่อนหน้านั้นในช่วง บ่ายวันเดียวกัน พ.ต.อ. สนธยา ธูปทอง ผกก.สภ.บาเจาะ รับแจ้งมีเหตุคนถูกยิงเสียชีวิตบนถนนภายในสนามฟุตบอลบ้านยามูแรแน ม.4 ต.บาเระเหนือ จึงนำกำลังประสานทหารและเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองรุดไปตรวจสอบ พบศพนายมะยูโซะ สนิ อายุ 50 ปี ผช.ผู้ใหญ่บ้านกูแบบาเดาะ นอนจมกองเลือดเสียชีวิตอยู่บนถนน โดยมีบาดแผลถูกยิงด้วยกระสุนปืนพกไม่ทราบขนาดที่ศีรษะจำนวน 1 นัด ทราบว่าก่อนเกิดเหตุผู้ตายกำลังยืนดูฟุตบอลอยู่ มีคนร้ายซึ่งปะปนกับชาวบ้านบุกเข้าจ่อยิงจนเสียชีวิต เบื้องต้นเจ้าหน้าที่คาดเป็นการสร้างสถาน การณ์เหตุร้ายรายวัน แต่ยังไม่ตัดประเด็นขัดแย้งส่วนตัวทิ้ง
ส่วนที่ จ.ยะลา เกิดเหตุระเบิดหลายจุดเช่นเดียวกัน ประกอบด้วย อ.ยะหา 2 จุด บริเวณเสาไฟฟ้าบ้านกาโต๊ะ ม.7 ต.ปะแต อ.ยะหา และเสาไฟฟ้า ต.บาโงยซิแน, อ.กรงปินัง 2 จุด ที่เสาไฟฟ้า ริมถนนสาย 410 บริเวณ ม.4 และ ม.7 ต.กรงปินัง อ.บันนังสตา 2 จุด ในพื้นที่บ้านยีลาปัน และ อ.ธารโต 2 จุด ทำให้กระแสไฟฟ้าดับในหลายพื้นที่ เบื้องต้นคาดว่าเป็นการก่อกวนสร้างสถานการณ์
วันเดียวกัน ที่ห้องประชุมศรีวังษา คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยา เขตปัตตานี (ม.อ.ปัตตานี) จัดเวทีสาธารณะและการเสวนาทางวิชาการเรื่องกระบวนการสันติภาพ ปัตตานี จากสถานวิจัยความขัดแย้งและความหลากหลายทางวัฒนธรรมภาคใต้ และคณะรัฐศาสตร์ ม.อ.ปัตตานี ร่วมกับร.ร. วิชาการเมือง ศูนย์เฝ้าระวังสถานการณ์ภาคใต้ โดยมี ศ.ดร.กามารุซซามาน อัสกันดาร์ ผู้ประสานงานศูนย์วิจัยและการศึกษาสันติภาพ (REPUSM) มหาวิทยาลัยซายน์มาเลเซีย รัฐปีนัง ประเทศมาเลเซีย เสวนาเรื่องบทบาทของผู้อำนวยความสะดวกในมินดา เนาและปาตานี : มุมมองจากมาเลเซีย
นำเสนอข้อมูลผลการวิจัยกระบวนการสันติภาพ ของมินดาเนา ฟิลิปปินส์ หรือบังซามอโรสู่กระบวนการสันติภาพปัตตานี นำการแลกเปลี่ยนผลการวิจัยโดยดร.นอร์เบิร์ต โรเปอร์ส นักวิจัยอาวุโสสถานวิจัยความขัดแย้งและความหลากหลายทางวัฒนธรรมภาคใต้ ม.อ.ปัตตานี สุดท้าย ผศ.ดร.กุสุมา กูใหญ่ รองคณบดีคณะวิทยาการสื่อสาร ม.อ.ปัตตานี ร่วมบรรยายถึงปัญหาและอุปสรรคของกระบวนการ สันติภาพของไทย ผศ.ดร.ศรีสมภพ จิตรภิรมย์ศรี และ อ.ไพซอล ดาโอ๊ะ เป็นผู้ดำเนินรายการ
ผู้ สื่อข่าวรายงานว่า ในเวทีการเสวนาได้มีการสะท้อนถึงปัญหาและอุปสรรคของการสร้างกระบวนการ สันติภาพปัตตานีหรือพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ เกิดจากความพร้อมของคนในพื้นที่ ซึ่งยังคงมีความคิดต่างกันอย่างสิ้นเชิงต่อเป้าหมายเพื่อนำสู่กระบวนการ สันติภาพ จึงเรียกร้องให้คนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ต้องสร้างกระบวนการคิดที่ สามารถตกผลึกร่วมกันได้ว่าคนในพื้นที่มีความต้องการอะไรเสียก่อน จึงสามารถที่จะนำแนวคิดหรือความต้องการที่เป็นเอกฉันท์ผลักดันสู่กระบวนการ สันติภาพปัตตานี โดยจะไปโทษใครคนอื่นไม่ได้อีกแล้ว แต่ต้องยอมรับกับความจริง แล้วสู่ทางการแก้ไข ในการสร้างความพร้อม คือหนทางสันติภาพปัตตานีอย่างแท้จริง
