กรมอนามัยชูแนวคิด...“เข้าใจ เข้าถึง ช่วยเหลือ”ป้องกัน...แก้ไขปัญหาพฤติกรรมทางเพศในวัยรุ่น

ปัจจุบันค่านิยมการคบเพื่อนต่าง***ในสังคมวัยรุ่นของไทยเป็นไปอย่างอิสระเสรีมากขึ้น โดยมองว่าการแสดงออกพฤติกรรมทาง***เป็นเรื่องปกติธรรมดา เห็นว่าการมี***สัมพันธ์กับแฟนหรือคนรักไม่ใช่เรื่องน่าละอาย ทำให้วัยรุ่นมีพฤติกรรมทาง***ที่ไม่ถูกต้องเหมาะสมโดยเฉพาะการมี***สัมพันธ์ก่อนวัยอันควร จนเกิดปัญหาต่างๆตามมา ทั้งการตั้งท้องไม่พร้อม การทำแท้ง และการเป็นโรคติดต่อทาง***สัมพันธ์ กรมอนามัยเดินหน้าป้องกันและแก้ไขปัญหาฯด้วย 3 ยุทธศาสตร์ภายใต้แนวคิด “เข้าใจ เข้าถึง ช่วยเหลือ”
ดร.นพ.พรเทพ ศิริวนารังสรรค์ อธิบดีกรมอนามัยเปิดเผยถึงข้อมูลการสำรวจพฤติกรรมทาง***ของวัยรุ่นไทยปี 2555 ซึ่งจัดทำโดยสำนักระบาดวิทยากรมควบคุมโรคว่าปัจจุบันปัญหาพฤติกรรมทาง***ที่ไม่เหมาะสมในวัยรุ่นไทย กำลังจะกลายเป็นปัญหาสังคมที่รุนแรงมากขึ้นทุกวันโดยเฉพาะการมี***สัมพันธ์ก่อนวัยอันควรซึ่งพบว่าวัยรุ่นไทยมี***สัมพันธ์ครั้งแรกอายุน้อยลง นักเรียนชั้น ม. 2,5 และปวช.ปี 2 มี***สัมพันธ์มากขึ้นและมีเพียงร้อยละ 50 เท่านั้นที่ใช้ถุงยางอนามัยป้องกัน ซึ่งผลจากการมี***สัมพันธ์ที่ไม่ได้ป้องกันนี่เองได้นำมาสู่การตั้งท้องไม่พร้อม จากข้อมูลปี 2555 พบว่ามีหญิงคลอดที่อายุน้อยกว่า 20 ปีเพิ่มขึ้นจากปี 2543 วันละ 240 ราย เป็นวันละ 365 ราย และเป็นหญิงคลอดที่อายุน้อยกว่า 15 ปีเพิ่มขึ้นจากปี 2543 วันละ 4 รายเป็นวันละ 10 ราย โดยพบว่าปี 2555 หญิงอายุ 15-19 ปีมีการคลอดเพิ่มขึ้นจากปี 2551 จาก 50.1 เป็น 53.8 ในอัตราส่วนต่อหญิงกลุ่มวัยเดียวกันพันคน
สาเหตุของการตั้งท้องไม่พร้อมในวัยรุ่นไทย เป็นเพราะขาดความรู้ในเรื่อง***ศึกษาและเรื่องการคุมกำเนิดที่ถูกวิธี มีความเข้าใจผิดๆเกี่ยวกับการร่วม***ที่คิดว่าครั้งเดียวคงไม่ท้อง ไม่สวมถุงยางอนามัยเพราะรู้สึกว่าขัดขวางความรู้สึกทาง*** คิดว่าการมี***สัมพันธ์กับคู่รักปลอดภัยโดยไม่ป้องกัน นอกจากปัญหาการตั้งท้องไม่พร้อมแล้ว ยังส่งผลถึงการทำแท้ง รวมถึงการเกิดโรคติดต่อทาง***สัมพันธ์ อย่างเช่นโรคเอดส์ ที่ขณะนี้ตัวเลขวัยรุ่นไทยติด “โรคร้าย” นี้เพิ่มสูงขึ้นอย่างน่าใจหาย
ในการดำเนินงานที่เกี่ยวกับวัยรุ่นเพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหาการตั้งครรภ์ไม่พร้อมและลดอัตราการติดเชื้อโรคติดต่อทาง***สัมพันธ์และโรคเอดส์นั้น ดร.นพ.พรเทพบอกว่ากรมอนามัยได้จัดทำโครงการเครือข่ายวัยรุ่นอาสาวางแผนครอบครัว เพื่อส่งเสริมให้วัยรุ่นไทยมีความรู้ เกิดความตระหนักและใช้บริการวิธีคุมกำเนิดได้อย่างถูกต้องเหมาะสมและมีประสิทธิภาพ พร้อมทั้งพัฒนาศักยภาพแกนนำวัยรุ่นให้สามารถให้การปรึกษาเกี่ยวกับ***ศึกษาได้ โครงการนี้เป็น1 ใน 8 โครงการหลักที่กรมอนามัยจะมุ่งเน้นในปี2557 ซึ่งจะมีการขับเคลื่อนภายใต้แนวคิด “เข้าใจ เข้าถึง ช่วยเหลือ” โดยใช้ 3 ยุทธศาสตร์หลัก คือ 1.การสื่อสารสาธารณะ เพื่อสร้างความตระหนักต่อปัญหาการตั้งครรภ์ในวัยรุ่น รวมทั้งการให้ความรู้ ความเข้าใจที่ถูกต้อง แก่ พ่อแม่ ผู้ปกครองและวัยรุ่น ให้วัยรุ่นตัดสินใจชะลอการมี***สัมพันธ์ออกไปจนกว่าจะถึงเวลาที่เหมาะสม และให้กลุ่มที่ตัดสินใจจะมี***สัมพันธ์ได้มีความรู้ในการป้องกันเพื่อลดปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้นตามมาไม่ว่าจะเป็นโรคติดต่อทาง***สัมพันธ์หรือการตั้งครรภ์ไม่พร้อมก็ตาม ซึ่งจะร่วมมือกับกระทรวงศึกษาธิการพัฒนาหลักสูตรการเรียนการสอนที่เกี่ยวกับ***ศึกษาและทักษะชีวิตในโรงเรียน พัฒนาสื่อการเรียนการสอนที่ตรงกับความต้องการของวัยรุ่น พัฒนาศักยภาพครูให้มีความรู้ ทักษะ ความมั่นใจ ในการให้ความรู้ รวมทั้งการสื่อสารกับสังคมเพื่อสร้างความรู้ ความเข้าใจและทัศนคติที่ดี
ยุทธศาสตร์ที่2.คือการเข้าถึงบริการอนามัยการเจริญพันธุ์โดยจะสร้างระบบบริการที่ครอบคลุมทุกความต้องการของกลุ่มวัยรุ่น ได้แก่ บริการให้คำปรึกษา ให้ความรู้ บริการคุมกำเนิด เน้นต้องเข้าถึงได้ง่าย ซึ่งกรมอนามัยจะร่วมกับกรมควบคุมโรคและกรมสุขภาพจิต สนับสนุนให้โรงพยาบาลสังกัดกระทรวงสาธารณสุข จำนวน 835 แห่ง จัด “คลินิกวัยรุ่น”ให้วัยรุ่นเข้าถึงบริการได้ง่าย ตามมาตรฐานบริการสุขภาพที่เป็นมิตรสำหรับวัยรุ่นและเยาวชน(Youth Friendly Health Services) ทั้งบริการคุมกำเนิด การยุติการตั้งครรภ์ที่ปลอดภัย การดูแลแม่วัยรุ่นอย่างเป็นองค์รวมโดยจะเชื่อมโยงกับเครือข่าย รพ.สต. โรงเรียน ชุมชน และเครือข่ายนอกกระทรวงสาธารณสุข ไม่ว่าจะเป็นภาครัฐ สถานศึกษา สถานประกอบการและองค์กรเอกชนในพื้นที่ เพื่อให้มีการทำงานที่เข้มแข็ง มีบริการเชิงรุก และมีระบบส่งต่อที่เหมาะสมในกรณีที่มีความจำเป็น
สำหรับยุทธศาสตร์ที่3.ดร.นพ.พรเทพบอกว่าคือระบบการดูแลและช่วยเหลือเมื่อเกิดปัญหาตั้งครรภ์ไม่พร้อมขึ้น เป็นบริการให้คำปรึกษาแบบมีทางเลือก ทั้งเลือกที่จะตั้งครรภ์ต่อไปหรือที่จะยุติการตั้งครรภ์ที่ไม่ปลอดภัย ซึ่งสมัยก่อนสังคมจะมองว่าการให้บริการแบบนี้เป็นการส่งเสริมให้วัยรุ่นทำแท้งมากขึ้น ปัญหานี้ถ้าภาครัฐไม่จัดให้มีระบบดูแลช่วยเหลือก็เท่ากับผลักไสให้วัยรุ่นไปเสาะหาบริการด้วยตัวเอง ซึ่งนอกจากจะเป็นสถานบริการที่ผิดกฎหมายนำไปสู่การทำแท้งที่ไม่ปลอดภัยแล้ว ยังมีภาวะแทรกซ้อนที่เกิดขึ้นตามมามากมาย แต่ถ้าวัยรุ่นได้เข้าสู่ระบบการดูแลช่วยเหลือให้คำปรึกษาที่ถูกต้อง ส่วนใหญ่ก็จะไม่เลือกยุติการตั้งครรภ์แต่มักจะเลือกการตั้งครรภ์ต่อไป ซึ่งต้องให้ความช่วยเหลือเช่นกันไม่ว่าจะเป็นการทำความเข้าใจกับครอบครัว โอกาสในการศึกษาต่อ หรือโอกาสในการทำงานในอนาคต รวมทั้งการป้องกันการตั้งครรภ์ซ้ำ ด้วยการให้ความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับการวางแผนครอบครัวและการคุมกำเนิด โดยเฉพาะวิธีคุมกำเนิดแบบกึ่งถาวรที่มีประสิทธิภาพสามารถคุมกำเนิดได้ 3-5 ปี เช่นยาฝังคุมกำเนิดและห่วงอนามัย
“นอกจากการดำเนินงานของกรมอนามัยดังที่กล่าวมา การมีครอบครัวที่อบอุ่นถือเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยป้องกันวัยรุ่นจากพฤติกรรมทาง***ที่ไม่ถูกต้องเหมาะสมได้ ซึ่งพบว่าวัยรุ่นที่มีการพูดคุยเรื่องการคุมกำเนิดกับพ่อแม่ มีการใช้วิธีคุมกำเนิดมากกว่าผู้ที่ไม่เคยคุย พ่อแม่/ผู้ปกครองจึงต้องมีเวลาพูดคุยกับลูกวัยรุ่นให้มากยิ่งขึ้นให้เกียรติ ยอมรับ รับฟัง และเข้าใจในในปัญหาของวัยรุ่น การดูแลเอาใจใส่อย่างใกล้ชิดจากครอบครัว จะช่วยให้วัยรุ่นสามารถปรับตัวได้อย่างเหมาะสม สามารถก้าวผ่านปัญหาต่างๆที่เกิดขึ้นในช่วงชีวิตของวัยรุ่นไปด้วยดี”ดร.นพ.พรเทพกล่าวปิดท้าย
****************************
ที่มา : http://www.moph.go.th/

ปัจจุบันค่านิยมการคบเพื่อนต่าง***ในสังคมวัยรุ่นของไทยเป็นไปอย่างอิสระเสรีมากขึ้น โดยมองว่าการแสดงออกพฤติกรรมทาง***เป็นเรื่องปกติธรรมดา เห็นว่าการมี***สัมพันธ์กับแฟนหรือคนรักไม่ใช่เรื่องน่าละอาย ทำให้วัยรุ่นมีพฤติกรรมทาง***ที่ไม่ถูกต้องเหมาะสมโดยเฉพาะการมี***สัมพันธ์ก่อนวัยอันควร จนเกิดปัญหาต่างๆตามมา ทั้งการตั้งท้องไม่พร้อม การทำแท้ง และการเป็นโรคติดต่อทาง***สัมพันธ์ กรมอนามัยเดินหน้าป้องกันและแก้ไขปัญหาฯด้วย 3 ยุทธศาสตร์ภายใต้แนวคิด “เข้าใจ เข้าถึง ช่วยเหลือ”
ดร.นพ.พรเทพ ศิริวนารังสรรค์ อธิบดีกรมอนามัยเปิดเผยถึงข้อมูลการสำรวจพฤติกรรมทาง***ของวัยรุ่นไทยปี 2555 ซึ่งจัดทำโดยสำนักระบาดวิทยากรมควบคุมโรคว่าปัจจุบันปัญหาพฤติกรรมทาง***ที่ไม่เหมาะสมในวัยรุ่นไทย กำลังจะกลายเป็นปัญหาสังคมที่รุนแรงมากขึ้นทุกวันโดยเฉพาะการมี***สัมพันธ์ก่อนวัยอันควรซึ่งพบว่าวัยรุ่นไทยมี***สัมพันธ์ครั้งแรกอายุน้อยลง นักเรียนชั้น ม. 2,5 และปวช.ปี 2 มี***สัมพันธ์มากขึ้นและมีเพียงร้อยละ 50 เท่านั้นที่ใช้ถุงยางอนามัยป้องกัน ซึ่งผลจากการมี***สัมพันธ์ที่ไม่ได้ป้องกันนี่เองได้นำมาสู่การตั้งท้องไม่พร้อม จากข้อมูลปี 2555 พบว่ามีหญิงคลอดที่อายุน้อยกว่า 20 ปีเพิ่มขึ้นจากปี 2543 วันละ 240 ราย เป็นวันละ 365 ราย และเป็นหญิงคลอดที่อายุน้อยกว่า 15 ปีเพิ่มขึ้นจากปี 2543 วันละ 4 รายเป็นวันละ 10 ราย โดยพบว่าปี 2555 หญิงอายุ 15-19 ปีมีการคลอดเพิ่มขึ้นจากปี 2551 จาก 50.1 เป็น 53.8 ในอัตราส่วนต่อหญิงกลุ่มวัยเดียวกันพันคน
สาเหตุของการตั้งท้องไม่พร้อมในวัยรุ่นไทย เป็นเพราะขาดความรู้ในเรื่อง***ศึกษาและเรื่องการคุมกำเนิดที่ถูกวิธี มีความเข้าใจผิดๆเกี่ยวกับการร่วม***ที่คิดว่าครั้งเดียวคงไม่ท้อง ไม่สวมถุงยางอนามัยเพราะรู้สึกว่าขัดขวางความรู้สึกทาง*** คิดว่าการมี***สัมพันธ์กับคู่รักปลอดภัยโดยไม่ป้องกัน นอกจากปัญหาการตั้งท้องไม่พร้อมแล้ว ยังส่งผลถึงการทำแท้ง รวมถึงการเกิดโรคติดต่อทาง***สัมพันธ์ อย่างเช่นโรคเอดส์ ที่ขณะนี้ตัวเลขวัยรุ่นไทยติด “โรคร้าย” นี้เพิ่มสูงขึ้นอย่างน่าใจหาย
ในการดำเนินงานที่เกี่ยวกับวัยรุ่นเพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหาการตั้งครรภ์ไม่พร้อมและลดอัตราการติดเชื้อโรคติดต่อทาง***สัมพันธ์และโรคเอดส์นั้น ดร.นพ.พรเทพบอกว่ากรมอนามัยได้จัดทำโครงการเครือข่ายวัยรุ่นอาสาวางแผนครอบครัว เพื่อส่งเสริมให้วัยรุ่นไทยมีความรู้ เกิดความตระหนักและใช้บริการวิธีคุมกำเนิดได้อย่างถูกต้องเหมาะสมและมีประสิทธิภาพ พร้อมทั้งพัฒนาศักยภาพแกนนำวัยรุ่นให้สามารถให้การปรึกษาเกี่ยวกับ***ศึกษาได้ โครงการนี้เป็น1 ใน 8 โครงการหลักที่กรมอนามัยจะมุ่งเน้นในปี2557 ซึ่งจะมีการขับเคลื่อนภายใต้แนวคิด “เข้าใจ เข้าถึง ช่วยเหลือ” โดยใช้ 3 ยุทธศาสตร์หลัก คือ 1.การสื่อสารสาธารณะ เพื่อสร้างความตระหนักต่อปัญหาการตั้งครรภ์ในวัยรุ่น รวมทั้งการให้ความรู้ ความเข้าใจที่ถูกต้อง แก่ พ่อแม่ ผู้ปกครองและวัยรุ่น ให้วัยรุ่นตัดสินใจชะลอการมี***สัมพันธ์ออกไปจนกว่าจะถึงเวลาที่เหมาะสม และให้กลุ่มที่ตัดสินใจจะมี***สัมพันธ์ได้มีความรู้ในการป้องกันเพื่อลดปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้นตามมาไม่ว่าจะเป็นโรคติดต่อทาง***สัมพันธ์หรือการตั้งครรภ์ไม่พร้อมก็ตาม ซึ่งจะร่วมมือกับกระทรวงศึกษาธิการพัฒนาหลักสูตรการเรียนการสอนที่เกี่ยวกับ***ศึกษาและทักษะชีวิตในโรงเรียน พัฒนาสื่อการเรียนการสอนที่ตรงกับความต้องการของวัยรุ่น พัฒนาศักยภาพครูให้มีความรู้ ทักษะ ความมั่นใจ ในการให้ความรู้ รวมทั้งการสื่อสารกับสังคมเพื่อสร้างความรู้ ความเข้าใจและทัศนคติที่ดี
ยุทธศาสตร์ที่2.คือการเข้าถึงบริการอนามัยการเจริญพันธุ์โดยจะสร้างระบบบริการที่ครอบคลุมทุกความต้องการของกลุ่มวัยรุ่น ได้แก่ บริการให้คำปรึกษา ให้ความรู้ บริการคุมกำเนิด เน้นต้องเข้าถึงได้ง่าย ซึ่งกรมอนามัยจะร่วมกับกรมควบคุมโรคและกรมสุขภาพจิต สนับสนุนให้โรงพยาบาลสังกัดกระทรวงสาธารณสุข จำนวน 835 แห่ง จัด “คลินิกวัยรุ่น”ให้วัยรุ่นเข้าถึงบริการได้ง่าย ตามมาตรฐานบริการสุขภาพที่เป็นมิตรสำหรับวัยรุ่นและเยาวชน(Youth Friendly Health Services) ทั้งบริการคุมกำเนิด การยุติการตั้งครรภ์ที่ปลอดภัย การดูแลแม่วัยรุ่นอย่างเป็นองค์รวมโดยจะเชื่อมโยงกับเครือข่าย รพ.สต. โรงเรียน ชุมชน และเครือข่ายนอกกระทรวงสาธารณสุข ไม่ว่าจะเป็นภาครัฐ สถานศึกษา สถานประกอบการและองค์กรเอกชนในพื้นที่ เพื่อให้มีการทำงานที่เข้มแข็ง มีบริการเชิงรุก และมีระบบส่งต่อที่เหมาะสมในกรณีที่มีความจำเป็น
สำหรับยุทธศาสตร์ที่3.ดร.นพ.พรเทพบอกว่าคือระบบการดูแลและช่วยเหลือเมื่อเกิดปัญหาตั้งครรภ์ไม่พร้อมขึ้น เป็นบริการให้คำปรึกษาแบบมีทางเลือก ทั้งเลือกที่จะตั้งครรภ์ต่อไปหรือที่จะยุติการตั้งครรภ์ที่ไม่ปลอดภัย ซึ่งสมัยก่อนสังคมจะมองว่าการให้บริการแบบนี้เป็นการส่งเสริมให้วัยรุ่นทำแท้งมากขึ้น ปัญหานี้ถ้าภาครัฐไม่จัดให้มีระบบดูแลช่วยเหลือก็เท่ากับผลักไสให้วัยรุ่นไปเสาะหาบริการด้วยตัวเอง ซึ่งนอกจากจะเป็นสถานบริการที่ผิดกฎหมายนำไปสู่การทำแท้งที่ไม่ปลอดภัยแล้ว ยังมีภาวะแทรกซ้อนที่เกิดขึ้นตามมามากมาย แต่ถ้าวัยรุ่นได้เข้าสู่ระบบการดูแลช่วยเหลือให้คำปรึกษาที่ถูกต้อง ส่วนใหญ่ก็จะไม่เลือกยุติการตั้งครรภ์แต่มักจะเลือกการตั้งครรภ์ต่อไป ซึ่งต้องให้ความช่วยเหลือเช่นกันไม่ว่าจะเป็นการทำความเข้าใจกับครอบครัว โอกาสในการศึกษาต่อ หรือโอกาสในการทำงานในอนาคต รวมทั้งการป้องกันการตั้งครรภ์ซ้ำ ด้วยการให้ความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับการวางแผนครอบครัวและการคุมกำเนิด โดยเฉพาะวิธีคุมกำเนิดแบบกึ่งถาวรที่มีประสิทธิภาพสามารถคุมกำเนิดได้ 3-5 ปี เช่นยาฝังคุมกำเนิดและห่วงอนามัย
“นอกจากการดำเนินงานของกรมอนามัยดังที่กล่าวมา การมีครอบครัวที่อบอุ่นถือเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยป้องกันวัยรุ่นจากพฤติกรรมทาง***ที่ไม่ถูกต้องเหมาะสมได้ ซึ่งพบว่าวัยรุ่นที่มีการพูดคุยเรื่องการคุมกำเนิดกับพ่อแม่ มีการใช้วิธีคุมกำเนิดมากกว่าผู้ที่ไม่เคยคุย พ่อแม่/ผู้ปกครองจึงต้องมีเวลาพูดคุยกับลูกวัยรุ่นให้มากยิ่งขึ้นให้เกียรติ ยอมรับ รับฟัง และเข้าใจในในปัญหาของวัยรุ่น การดูแลเอาใจใส่อย่างใกล้ชิดจากครอบครัว จะช่วยให้วัยรุ่นสามารถปรับตัวได้อย่างเหมาะสม สามารถก้าวผ่านปัญหาต่างๆที่เกิดขึ้นในช่วงชีวิตของวัยรุ่นไปด้วยดี”ดร.นพ.พรเทพกล่าวปิดท้าย
****************************
ที่มา : http://www.moph.go.th/