ผอ.CMTE แย้ม กระจายอำนาจให้สถาบันหลัก “รศ.เทียนชัย” ชี้ การศึกษาด้วยตนเองเปิดโอกาสให้ผู้ที่ไม่สามารถเข้าร่วมประชุมได้ศึกษาหาความรู้เพิ่มด้วยตัวเอง เตรียมผลัก CMTE online/offline ให้เดินหน้า แนะควรมีความรู้เรื่องกฎหมาย การบริหารจัดการ คุณธรรม จริยธรรม เพิ่มเติมจากความรู้ทางวิชาการ แย้มกระจายอำนาจการบริหารงานจากศูนย์ฯ ไปยังสถาบันหลัก เพื่อลดภาระงานของศูนย์ฯลง
รศ.เทียนชัย ไชยเศรษฐ ผู้อำนวยการศูนย์การศึกษาต่อเนื่องของเทคนิคการแพทย์ (CMTE) กล่าวเมื่อวันที่ ๑๗ มิย.ที่ผ่านมาว่า ตนสนใจอย่างมากกับเรื่องการศึกษาด้วยตนเอง เพราะทำให้เทคนิคการแพทย์ที่ขาดโอกาสไปร่วมประชุมทางวิชาการ ด้วยข้อจำกัดของลักษณะงานที่ทำ หรือทั้งหน่วยงานมีเทคนิคการแพทย์เพียงคนดียว ได้มีโอกาสได้ศึกษาหาความรู้เพิ่มเติมได้ด้วยตัวเอง งานหนึ่งที่คิดทำให้เดินมากๆคือการศึกษาผ่านระบบ online และ offline ซึ่งจัดเป็นกิจกรรมชนิดที ๑๕ (การเรียนรู้โดยมีปฏิสัมพันธ์กับเทคโนโลยีสารสนเทศ เป็นกิจกรรมเพิ่มพูนความรู้เฉพาะตัวบุคคล) รวมทั้งยังให้ความสนใจเรื่องการจัดทำ magazine ด้วย แต่ยังไม่ได้ศึกษาว่าจะต้องบริหารจัดการอย่างไร
รศ.เทียนชัย กล่าวด้วยว่า กิจกรรมการเรียนรู้ไม่ควรมีแต่วิชาที่เราคุ้นเคย ประเภท clin chem, hemato, bacteria, blood bank แต่ควรกว้างตามความเป็นจริงว่าคนในวิชาชีพต้องเจอ ต้องรู้อะไรอีก เช่น กฏหมาย การบริหารจัดการ แม้กระทั่งด้านคุณธรรม จริยธรรม ที่เป็นวัตถุประสงค์ของวิชาชีพ แต่ไม่เคยได้รับความสนใจ รูปแบบของ cmte online/offline จึงไม่ควรมีเพียงแค่บทความที่มีคำถาม แต่ควรมีหลากหลายรูปแบบ เช่น case disussion , lecture ฯลฯ ซึ่งต่างประเทศเขาก็ทำกันอยู่ เราตั้งเป้าหมายสูงกว่าให้คนได้คะแนน แต่จะใช้เป็นเครื่องมือให้วิชาชีพเป็นองค์กรเรียนรู้ ให้คนในวิชาชีพตื่นตัวในการรับรู้ ไปถึงอยากเรียนรู้เพื่อพัฒนาตนเอง และหน่วยงาน เป็นศูนย์กลางของการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ ฯลฯ เพราะโลกวันนี้เป็นสังคมที่สู้กันด้วยความรู้ เราเชื่อว่าการพัฒนาคนสำคัญที่สุดในการยกระดับวิชาชีพ ไม่ใช่การเรียกร้องให้คนยอมรับ
รศ.เทียนชัย กล่าวอีกว่า หกเจ็ดเดือนที่ตนเข้ามาทำ เป็นการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าเกือบทั้งหมด เครื่องมือที่ใช้คือโปรแกรมก็ยังอยู่ระหว่างการเขียน การเอาไปออกงานประชุมวิชาการสมาคมเทคนิคการแพทย์แห่งประเทศไทยฯ ที่จ.อุดรธานีเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา ก็นับว่าเสี่ยงพอดู แต่จำเป็นต้องเรียกขวัญกำลังใจ ให้ทุกคนไม่หว้าเหว่มากนัก และเห็นว่าควรมีการกระจายอำนาจการบริหารงานจากศูนย์ฯ ไปยังสถาบันหลัก เพื่อลดภาระงานของศูนย์ฯลง เนื่องจากต่อไปศูนย์ฯจะมีภาระงานมากขึ้น ขณะที่มีอนุกรรมการเพียงไม่กี่คน และทุกคนล้วนมีภารกิจประจำทำกันทั้งนั้น โดยตนจะนำเสนอโรดแมบ CMTE ในการประชุมสัมมนาร่วมระหว่าง สภาเทคนิคการแพทย์ สมาคมเทคนิคการแพทย์ฯ และสภาคณบดีสถาบันผู้ผลิตบัณฑิตเทคนิคการแพทย์ฯ ในวันที่ ๑๙-๒๐ กค.ที่จะถึงนี้ โดยมีภาคเอกชน รวมทั้งประธานและเลขาอนุกรรมการคณะต่างๆ เข้าร่วมด้วย
ด้าน ทนพ.อิสระพงศ์ แจ้งเขว้า อดีตอนุกรรมการ CMTE ในคณะกรรมการวิชาชีพสาขาเทคนิคการแพทย์ ปี ๒๕๔๖-๒๕๔๗ กล่าวในเรื่องเดียวกันว่า ศูนย์การศึกษาต่อเนื่องฯ ต้องมอบอำนาจให้สถาบันหลักซึ่งก็คือคณะที่มีการเรียนการสอนเทคนิคการแพทย์ในแต่ละภูมิภาคให้สามารถ Audit และ Approved กิจกรรมของสถาบันสมทบได้ ซึ่งจะช่วยร่นระยะเวลาในการพิจารณาให้เร็วขึ้น จากนั้นทางสถาบันหลักก็เป็นผู้นำส่งให้กับศูนย์ฯอีกที เพราะหากทุกกิจกรรมต้องส่งเข้าศูนย์เพื่อ Audit และ Approved ทั้งหมด คงไม่สามารถรับรองได้ทันและไม่ได้จัดเก็บเครดิตแน่นอน และเห็นว่าการอนุมัติกิจกรรมของสถาบันหลักควรมีการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมจากผู้ขอจัดกิจกรรมด้วย
ทั้งนี้ ทนพ.อิสระพงศ์ กล่าวด้วยว่า ระบบการศึกษาต่อเนื่องที่ดีควรเป็นระบบ honor system ไม่ต้องระแวงกัน การให้เกียรติและไว้ใจกันต่างหากที่จะทำให้ระบบมันไปได้ การเข้าฟังและได้ความรู้เพื่อนำไปพัฒนาการทำงานและอาชีพคือเป้าหมายหลัก ไม่ใช่มุ่งแต่เฉพาะการเก็บเครดิต ไม่เช่นนั้นพอเก็บเครดิตถึงเกณฑ์ที่กำหนดแล้วก็ไม่มีแรงดึงดูดในการเข้าร่วมกิจกรรมการศึกษาต่อเนื่องอีก
**************************
ที่มา :
https://www.facebook.com/Medtechtoday
