ดาราสาว "เจมี่ บูเฮอร์" ขอโทษเหตุภาพถ่ายไปงานแจกรางวัลบันเทิง ใน ชุดกระโปรงแหวกหน้าผ่าลึกโชว์จีสตริง เผยตั้งใจให้เป็นสีสันโชว์สะโพกกับขาอ่อน แต่เวลาโพสท่ากลับเจอถ่ายช้อนเข้าไปจนน่าเกลียด รับเห็นภาพแล้วรุนแรงจริง ยันไม่เคยต้องการให้ภาพออกมาอนาจาร พร้อมหอบชุดบุกข่าวสดขอชี้แจง ชี้ทีมงานเตรียมเสื้อผ้าให้แล้วทดลองเดินถ่ายคลิปจนมั่นใจ แต่สุดท้ายภาพก็หลุดออกไปจนได้ ขอเป็นบทเรียนอนาคตจะเซ็กซี่อย่างมี ลิมิต ส่วนที่บอกดีใจเป็นไอดอลนั้นก็พูดก่อนหน้าจะเห็นรูป ขอเยาวชนอย่าเอาแบบอย่าง
หลังจากสร้างความฮือฮาในงาน "สยามดารา สตาร์ อวอร์ดส์ 2014" ที่คริสตัล ดีไซน์เซ็นเตอร์ เมื่อวันที่ 30 มิ.ย. ที่ผ่านมาด้วยชุดเซ็กซี่ สุดหวือหวา ใส่กระโปรงแหวกหน้า จนเห็นกางเกงในจีสตริงจนน่าหวาดเสียวสร้างเสียงวิพากษ์วิจารณ์ใน สังคมอย่างกว้างขวาง
ความคืบหน้าล่าสุดวันที่ 1 ก.ค. ดาราสาว "เจมี่" ให้สัมภาษณ์ "ข่าวสด" ถึงผลตอบรับ ดังกล่าว ว่า กระแสกระหน่ำมาก ด่ากันแบบถึงพริกถึงขิงสุดฤทธิ์ บางคนบอกว่าให้เอาตำรวจมาจับ ความจริงเราฟิตติ้งกัน 1 วันเต็ม ก่อนจะออกมาเป็นชุดนี้ แล้วก็ใช้เวลา 2 วันในการตัดเย็บ คือมันก็ผ่านกระบวนการคิดมาระดับหนึ่งแล้ว แต่ก็เข้าใจว่าคนอาจจะมองว่าแรง ที่แรงมันเป็นเรื่องของมุมภาพถ่ายมากกว่า ตนว่าเวทีนางสาวไทยทุกเวทีแต่งแรงกว่าตนอีก แต่มุมกล้องมันไม่ได้ช้อนขึ้นมาเท่านั้นเอง
ผู้สื่อข่าวถาม ว่าเหมือนเป็นการตั้งใจโชว์ ดาราสาว กล่าวว่า ตอนที่โพสท่าตนไม่สามารถเห็นได้เลยว่าเป็นยังไง ตนไม่ได้แก้ตัว พี่ๆ นักข่าวจะบอกว่าไม่เห็นอะไรเลย ไม่มีอะไร ภาพขึ้นปกไม่ได้ ให้ตนช่วยเปิดกระโปรงหน่อย ซึ่งก่อนจะออกงานตนก็ต้องซ้อม โพสก่อน ดูมุมนั้นมุมนี้ว่าจะถ่ายมุมไหนก็รู้สึกว่าไม่ได้เห็นเยอะขนาดนี้ แต่พอพี่ๆ นักข่าวบอกว่าโพสกว้างๆ หน่อย ก็เลยทำให้สื่อมวลชนได้ภาพมากที่สุด ไม่นึกว่าจะเห็นชัดขนาดนี้ แล้วกระโปรงตรงรอยผ่ามันหมุนมาข้างหน้า ซึ่งตอนแรกวางไว้ข้างๆ
ต่อข้อถามว่าช่วงที่เราโพสท่า รู้ตัวไหมว่ามีหลุด เจมี่ตอบว่า อาจจะเห็นแค่เหลือบๆ เห็นแค่ขา ตนคิดอย่างนี้ช่วงสะโพกขาขวา เรากะมาโชว์เต็มที่ แต่ไม่ได้กะว่าจะมาโชว์บิกินี เพราะมันไม่ใช่จุดขาย ไม่ใช่สรีระ ยืนยัน ไม่ได้แย่งซีน แต่ละคนก็มาเต็มที่ในบทบาทของตัวเอง ทำตามหน้าที่
ผู้ สื่อข่าวถามว่า แต่บางคนมองว่าภาพที่ออกมาดูอนาจาร ดาราสาวกล่าวว่า ตนว่าถ้าใส่แบบนี้ไปเที่ยววัดพระแก้วหรือไปเที่ยววังสักที่อนาจารแน่ แต่ว่าใส่แบบนี้ที่นี่สถานที่มันใช่ เจ้าของงานแฮปปี้ บรรยากาศงานใช่ เพราะฉะนั้นแฟนๆ ไม่ได้อยู่ในงานก็คงเม้าธ์กันไปในฐานะคนที่ดูแค่ภาพมุมช้อนแบบนั้น แต่บรรยากาศงานเรามันใช่ มันไม่อนาจาร
เมื่อถามว่าตอนที่ทางงานติดต่อมาได้บอกคอนเซ็ปต์งานไหม ดาราสาวตอบ "เขาบอกว่า งานนี้อย่าให้แพ้งานที่แล้วนะ"
กลาย เป็นว่าตอนนี้คนยิ่งคาดหวังว่างานหน้าจะจัดเต็มกว่านี้ เจมี่กล่าวว่า งานหน้าคิดไว้แล้วว่าคอนเซ็ปต์ตนคือเซอร์ไพรส์ งานหน้าอาจจะมิดชิดก็ได้ เพราะตนจะทำในสิ่งที่คนไม่คาดหวัง งานหน้าไม่แน่อาจจะเรียบหรูไฮโซ คลาสสิคไปเลยก็ได้ ยังไม่ทราบ
ต่อข้อถามว่าคิดไหมว่าจะมีผล ขนาดนี้ เจมี่กล่าวว่า "ไม่คิดเลย เพราะความรู้สึกเราคือจะจัดชุดงานนี้ให้ซอฟต์กว่างานครั้งที่แล้วด้วยซ้ำ เพราะงานนั้นรู้สึกเห็นเยอะมากเกินความคาดหมาย กะว่างานนี้แค่ให้เห็นแบบเหลือบๆ แต่กลับกลายเป็นงานนี้กระแสแรงกว่าเยอะมาก"
ผู้สื่อข่าวถาม ต่ออีกว่าได้มีการปรึกษาใครก่อนหรือไม่ ในการใส่ชุดนี้ ได้รับคำตอบว่า ชุดนี้ทีมงานทำไม่ต่ำกว่า 5 คน ส่วนทางครอบครัวไม่ได้คุย เพราะนี่คืองาน
แต่ เหมือนมีพูดว่าภูมิใจที่เป็นไอดอลน้องๆ ให้หันมาโชว์ส่วนอื่นบ้าง เจมี่ยืนยัน "ใช่ จริงๆ แล้วโชว์อกแรงกว่าเยอะมาก แต่เราโชว์กันจนชินตา ลองไปดูยุคแรกๆ ที่คนโชว์อก ดูว่าเขาโดนด่ากันยังไง หันมาโชว์ส่วนอื่นบ้าง แต่ไม่ใช่ตรงนั้นนะ ให้มีเปลี่ยนแปลงบ้าง"
ถามว่ามันจะขัดกับวัฒนธรรมบ้านเราไหม "โชว์อกก็ขัดกับวัฒนธรรมค่ะ ทุกอย่างขัดหมด ถ้าจะให้ถูกวัฒนธรรมต้องใส่สไบเฉียง"
ผู้ สื่อข่าวถามว่าที่เปลี่ยนลุกส์มาเซ็กซี่เกี่ยวกับผิดหวังความรักหรือไม่ ดาราสาวปฏิเสธ ไม่เกี่ยวเลย ตนแค่อยากสร้างความเปลี่ยน แปลงให้ตัวเอง ให้มีสีสันในชีวิต ตอนนี้ถ้าถามเรื่องหัวใจโสด ยังไม่มีใครคุย ขอโฟกัสเรื่องงานดีกว่า ไม่ค่อยมีเวลาคิดเรื่องหัวใจ
แล้ว มีหนุ่มๆ เข้ามาคุยบ้างไหม เจ้าตัวรับ "ก็มีค่ะ ตั้งแต่เรามีภาพเซ็กซี่ก็มีเพื่อนโทร.มาแซว มาพูดในลักษณะสองแง่สองง่าม เหมือนไม่ให้เกียรติ เหมือนมาพูดทีเล่นทีจริง เจมี่ไม่ชอบ เจมี่เป็นคนให้เกียรติคน เราก็จะบอกเขาไปตรงๆ แล้วก็จะไม่พูดด้วยเลย แต่เขาก็ไม่ถึงกับเป็นโรคจิต เหมือนเป็นเพื่อนเก่า ถามว่าปิดเรื่องหัวใจเลยไหม ไม่ถึงขนาดนั้น เพียงแต่เราไม่มีเวลา ด้วยไลฟ์สไตล์การทำงานของเรามันเป็นอย่างนี้ ตอนนี้โสดร้อยเปอร์เซ็นต์"
ต่อ ข้อถามว่า สรีระที่เป็นอยู่นี้พอใจไหม อยากอัพหรือทำอะไรเพิ่มหรือเปล่า เจมี่ตอบว่า "อยากทำบั้นท้าย เพราะมีคนชมว่าบั้นท้ายสวย ก็อยากทำให้ดูสวยอย่างนี้ไปตลอด ให้ดูตึงดูดีอย่างนี้ไปเรื่อยๆ"
แล้ว หน้าอกล่ะ อยากทำไหม "อยากทำค่ะ ถ้าทำก็ดี อัพเพิ่มมากกว่านี้ แต่ก็ต้องดูต่อไปในอนาคต ถ้าอยากทำก็อยากได้ไซซ์ที่เหมาะสมดูเป็นธรรมชาติ ไม่โอเวอร์"
ต่อมาเวลา 16.00 น. ดาราสาว เจมี่ บูเฮอร์ เดินทางมาที่หนังสือพิมพ์ข่าวสด พร้อมชุดเจ้าปัญหาประกอบด้วยกระโปรงยาวสีดำผ่าข้าง เสื้อเอวลอยผูกคอสีเทาปักเลื่อมหลากสีที่หน้าอก พร้อมกางเกงในจีสตริงมาโชว์ และให้สัมภาษณ์อีกครั้งว่า ต้องขอโทษประชาชนและสังคมไทย ตนเพิ่งเห็นรูป รู้สึกมันแรงจริงๆ ไม่ได้เป็นความตั้งใจที่จะให้ภาพออกมาแรงแบบนี้ วันที่เลือกชุดตนก็ลองและซ้อมโพสเรียบร้อย โดยวันที่ซ้อมไม่โป๊ ตนซ้อมเดิน ก้าว มีพี่ผู้จัดการถ่ายคลิปเอาไว้เช็กตลอด โดยที่ต้องการโชว์คือสะโพกและขาขวา แต่กลับเจอมุมภาพที่ช้อนขึ้นมา ตอนถ่ายไม่คิดว่าโป๊หรือเปล่า เพราะโฟกัสอยู่ที่กล้อง แต่พอเสร็จงานเห็นรูปก็รู้สึกว่ามันแรง สำหรับชุดดังกล่าวตัดมาในราคา 4 หมื่นกว่าบาท
เมื่อถามว่า ครอบครัวเป็นห่วงหรือไม่ เจมี่เผยว่า ยังไม่มีใครพูดอะไร เพราะหลังจากกลับมาเมื่อคืนก็เข้านอน ยังไม่มีเวลาว่างคุยกับใคร แล้ววันนี้ก็รับสายโทรศัพท์แต่นักข่าวหรือพี่ๆ ที่โทร.มา ยังไม่ได้เจอหน้าใครเลย
ผู้สื่อข่าวถามต่อว่า มีแฟนคลับที่เข้ามา คอมเมนต์ ได้ตอบโต้อะไรไปไหม ดาราสาว กล่าวว่า แค่โพสต์ลงอินสตาแกรมว่าไม่ใช่เจตนาของตนที่จะทำให้มันอุบาทว์หรืออุจาด
ผู้ สื่อข่าวถามว่า กลัวจะมีผลต่อภาพลักษณ์งานในวงการไหม ทั้งที่มีฝีมือทางการแสดง ไม่จำเป็นต้องขายภาพแบบนี้ นักแสดงสาว กล่าวว่า อันนี้เป็นสิ่งที่ตนคาดเดาไม่ได้จริงๆ ว่าความคิดของคนจะเป็นอย่างไร ต้องให้เป็นเรื่องของอนาคตไป แต่วันนี้อยากจะขอโทษทุกๆ คนมากกว่าที่มีผลทำให้ภาพนี้เกิดขึ้นมา
มีอีกกระแสหนึ่งที่ ให้กำลังใจ ทั้งเพื่อนในแวดวงเซ็กซี่ด้วยกัน หรือวัยรุ่นบางคนที่มองเราเป็นไอดอล จะเตือนน้องๆ อย่างไรไหม เจมี่เผยว่า ที่ตนพูดไปว่าขอเป็นไอดอล ตนพูดก่อนจะเห็นภาพนี้ แล้วมันเป็นเรื่องเฉพาะอาชีพ เหมือนที่ตนบอกกระต่าย แม็กซิม พวกเซ็กซี่ว่ามันเป็นสีสัน แต่ไม่ได้จะให้ทำเยอะขนาดนี้ แล้วสิ่งนี้ก็ไม่ควรจะเลียนแบบ สำหรับน้องๆ เด็กและเยาวชน มันเป็นความสามารถเฉพาะอาชีพ เป็นเฉพาะอาชีพนักแสดงหรือบทบาทของเราเท่านั้น
หลัง จากนี้เวลาออกงานต้องคิดมากขึ้นไหม เจมี่รับ "ต้องคิดไปมากกว่าอีกสเต็ปหนึ่งว่ามุมภาพของนักข่าวจะเป็นยังไงด้วยซ้ำ คือต้องมองยิ่งกว่า 360 องศา"
แต่มีคนมองถึงขั้น เราทำให้เสื่อมเสียเกียรติของหญิงไทย เสียเกียรติดาราหญิงในวงการบันเทิง อยากจะพูดอะไรไหม เจมี่กล่าวด้วยสีหน้าเครียดว่า "ให้มองเป็นเฉพาะบุคคลดีกว่า แล้วก็มองเป็นข้อผิดพลาดที่เราจะเรียนรู้ว่าการที่เราจะมีภาพพจน์เซ็กซี่มัน จะมีลิมิตยังไง เจมี่ขอโทษ ไม่ได้ตั้งใจหรืออยากให้มันเป็นแบบนี้ค่ะ" ดาราสาวกล่าว
ที่มาข่าวสด
