ลุ้นมานาน 10 ปี ภารกิจยานยุโรปไล่เกาะดาวหาง
เมธินี พรมทา
โครงการส่งยานสำรวจขนาดเล็ก “ฟิเล” ไปเกาะติดดาวหาง 67 พี เชอร์ยูมอฟ เจราซีเมนโก (comet 67P/Churyumov-Gerasimenko) ที่อยู่ห่างจากโลก 510 ล้านกิโลเมตร โดยใช้เวลาเดินทางนาน 10 ปี เป็นความภาคภูมิใจอย่างยิ่งยวดของทีมนักวิทยาศาสตร์องค์การอวกาศแห่งสหภาพยุโรป หรือ ESA
หลังจากหมดเงินลงทุนไป 1,300 ล้านยูโร หรือราว 53,200 ล้านบาท
โครงสร้างหลักของยานฟิเลทำจากไฟเบอร์คาร์บอน เชื่อมต่อชิ้นส่วนต่างๆ ในลักษณะคล้ายแซนด์วิชหกเหลี่ยมมีน้ำหนัก 100 กิโลกรัม ติดตั้งแผง โซลาร์เซลล์สำหรับแปลงพลังงาน
ยานแม่ของฟิเลชื่อ “โรเซ็ตต้า” เดินทางจากโลกตั้งแต่วันที่ 2 มีนาคม 2547 ไปพร้อมกับฟิเล ใช้ระยะเดินทางไกลในระบบสุริยจักรวาลกว่าจะไปถึงจุดหมาย 6,400 ล้านกิโลเมตรในวันที่ 6 สิงหาคม 2557 กระทั่งฟิเลทะยานออกจากโรเซ็ตต้าไปลงจอดบนดาวหาง 67พี เมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายน 2557
ดาวหาง 67 พี มีอายุกว่า 4,000 ล้านปี มีมวลกว่า 1 หมื่นล้านตัน และเคลื่อนที่ด้วยความเร็วสูงสุด 135,000 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
แต่กว่าจะลงจอดได้ทีมงานต้องลุ้นกันเหนื่อย เพราะระบบพลังงานแก๊สที่ใช้ป้องกันไม่ให้ยานเด้งกระดอนออกไปนอกอวกาศใช้การไม่ได้ ทำให้ทางทีมงานต้องเปลี่ยนมาใช้ระบบคันยึดแทน
การลงจอดครั้งแรกไม่สำเร็จ สร้างความกังวลและบั่นทอนกำลังใจให้กับเหล่านักวิทยาศาสตร์ไม่น้อย แต่พวกเขาไม่ได้ยอมแพ้
“วันนี้ยานฟิเลของเราอาจจะยังลงจอดไม่สำเร็จ แต่ก็ไม่เป็นไรโอกาสไม่ได้มีแค่ครั้งเดียว” สเตฟาน อัลลาเมก ผู้ควบคุมยานกล่าว
ความพยายามอยู่ที่ไหน ความสำเร็จอยู่ที่นั่น สุดท้ายยานฟิเลลงจอดบนพื้นผิวดาวหางได้อย่างปลอดภัยโดยใช้เวลาทั้งหมดถึง 7 ชั่วโมง บรรดาทีมนักวิทยาศาสตร์ต่างก็พากันตั้งฉายาให้ว่า “ชั่วโมงสยอง”
การลงจอดครั้งที่สองทำให้ยานเกาะกับพื้นผิวของดาวหางได้สำเร็จแต่ต้องเปลี่ยนไปลงจอดอีกจุดหนึ่งแทน
“พวกเราเห็นตัวยานลงจอดบนดาวหางเต็มสองตาเลย”แอนเดรีย โคมัสโซ ผู้อำนวยการยานแม่โรเซ็ตต้ากล่าวหลังจากที่ยานลงจอดได้สำเร็จแล้ว และว่า “เราได้รับการยืนยันแล้ว ไม่มีผิดเพี้ยนแน่นอน”
ทีมงานทั้งหมดกอดกันและส่งเสียงเชียร์ดังสนั่นด้วยความปลื้มปีติยินดีเป็นพิเศษก่อนที่จะมีการเฉลิมฉลองให้กับโครงการที่ทุ่มเททั้งแรงกายและแรงใจไปให้เป็นเวลากว่าสิบปีจนสำเร็จลุล่วงด้วยดีในที่สุด
อัลลาเมกกล่าวเสริมว่า“ผมว่าคุณคงไม่สามารถหาภาพที่สวยงามกว่านี้ดูได้อีกแล้ว”
อย่างไรก็ตาม ปัญหายังไม่จบเท่านี้ เพราะจุดที่ลงไปจอดนั้นอยู่ในมุมอับในการรับแสงอาทิตย์สำหรับไปแปลงเป็นพลังงานของแผงโซลาร์เซลล์
ยานฟิเลออกแบบมาให้ขับเคลื่อนได้ในสองกรณีกรณีแรกคือขับเคลื่อนได้ด้วยแบตเตอรี่ของมันเองซึ่งมีพลังงานสำหรับใช้งาน 60 ชั่วโมง
กรณีที่สองหากแบตเตอรี่ไม่มีพลังงานเหลือ ยังพอจะขับเคลื่อนต่อได้อีก 2-3 เดือนหากได้รับพลังงานจากแสงอาทิตย์เพียงพอที่จะมาช่วยชาร์จแบตเตอรี่ได้
การไปลงจอดในมุมที่มีเงาบังเช่นนี้ทำให้ฟิเลได้รับแสงในช่วงเวลาเพียง 1 ชั่วโมงครึ่งต่อวัน แทนที่จะเป็น 6-7 ชั่วโมงเพื่อรีชาร์จแบตฯให้เต็มได้
แม้อุปสรรคจะมาเป็นระลอกและก่อนที่ยานจะหมดพลังงานฟิเลส่งภาพถ่ายพื้นผิวดาวหางที่คมชัดมาให้ชาวโลกได้เห็นราวกับอยู่ใกล้ชิดแล้ว
แม้ว่าตอนนี้แบตเตอรี่ของฟิเลจะหมดไปแล้วแต่ยานแม่โรเซ็ตต้าจะยังคงติดตามดาวหางนี้ ไปพร้อมกับที่ดาวหางโคจรรอบดวงอาทิตย์ โดยในวันที่ 13 สิงหาคม 2558 ทั้งดาวหางและยานจะอยู่ใกล้ดวงอาทิตย์มากที่สุดที่ระยะห่าง 185 ล้านกิโลเมตร ก่อนจะมุ่งหน้าเคลื่อนตัวออกจากระบบสุริยะ
กว่าจะถึงวันนั้นยานสำรวจฟิเลและยานแม่โรเซ็ตต้าจะใช้เครื่องมือกว่า 21 ชนิด เพื่อวิเคราะห์และสำรวจดาวหางดวงนี้ โดยเฉพาะศึกษาสสารบนดาวหางอาจช่วยไขความลับจุดกำเนิดสิ่งมีชีวิตบนโลก และการกำเนิดสุริยจักรวาลได้