ปี ค.ศ.2014 ที่กำลังจะผ่านพ้นไป อาจเป็นทั้งปีที่ดีสุดๆ และแย่สุดๆ สำหรับวงการไอที ซึ่งสิ่งที่ดีและแย่สุดขั้วเหล่านั้นก็กำลังจะถูกส่งต่อไปยังปี 2015 ด้วยอย่างไม่ต้องสงสัย
นั่นจึงนำไปสู่ 9 สัญญาณที่รวบรวมจากการพยากรณ์ของบริษัทรีเสิร์ชชื่อดังต่างๆ ว่า มีเทรนด์อะไรบ้างที่มีแนวโน้มจะเกิดขึ้นในปีหน้า และเพื่อไม่ให้เสียเวลา ขอเชิญท่านผู้อ่านไปเริ่มกันเลยกับข้อที่ 1
1.ระบบรักษาความปลอดภัย-ประกันภัยเตรียมรุ่ง
อาจกล่าวได้ว่า ปี 2014 นี้เป็นปีแห่งการโจรกรรมข้อมูลครั้งมโหฬาร และสร้างอิมแพกต์ต่อโลกไซเบอร์อย่างมากถึงมากที่สุด โดยมีทั้งข้อมูลภาพ ข้อมูลคลิป ข้อมูลทางการเงิน ล่าสุด ก็คือกรณีของโซนี่ที่ถูกโจรกรรมข้อมูลไปกว่า 100 เทราไบต์ ที่รุนแรงถึงขนาดทำให้พี่เบิ้มอย่างรัฐบาลสหรัฐอเมริกาลงมาเล่นด้วยตัวเอง
สำหรับปี 2015 ก็คาดว่าจะเป็นปีที่บรรดาแฮกเกอร์มีการลงมือแฮกข้อมูลอย่างมโหฬารไม่แตกต่างกัน โดยฟอร์เรสเตอร์รีเสิร์ช คาดการณ์ว่า บรรดาร้านค้าแบรนด์เนมกว่า 60 เปอร์เซ็นต์ทั่วโลกจะตกเป็นเหยื่อของแฮกเกอร์
นั่นจึงทำให้โอกาสโกยเงินเข้ากระเป๋าตกเป็นของธุรกิจประกันภัยด้านข้อมูล และธุรกิจระบบรักษาความปลอดภัยอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
แม้จะไม่มีการคาดการณ์ด้านตัวเลขของธุรกิจประกันภัยที่จะเติบโตในปี 2015 ออกมา แต่ความเสียหายที่เกิดขึ้นในปีนี้ต่อบรรดาบริษัทต่างๆ คงจะมีผลให้หลายบริษัทหันมาทบทวนงบประมาณสำหรับประกันภัย-ระบบรักษาความปลอดภัยที่เข้มงวดกันมากขึ้นแน่นอน
2.สมาร์ทวอทช์จะชนะบรรดาสายรัดข้อมือ
เทรนด์นี้เป็นการทำนายทายทักจากการ์ทเนอร์ โดยระบุว่า ความร้อนแรงของนาฬิกาอัจฉริยะที่จะเปิดตัวในปี 2015 (แน่นอนว่าตัวหลักคือ แอปเปิลวอทช์) จะสยบความฮอตของบรรดาสายรัดข้อมือเพื่อสุขภาพที่เปิดตัวในปี 2014 ลงได้อย่างสิ้นเชิง และผู้ที่จ่ายเงินซื้อสายรัดข้อมือเพื่อสุขภาพมีโอกาสสูงที่จะจ่ายเงินอีกรอบเพื่อซื้อนาฬิกาอัจฉริยะมาสวมแทน
ในด้านยอดขายนั้น คาดว่าปี 2015 สายรัดข้อมือจะทำได้ราว 68.1 ล้านชิ้น ลดลงจากที่เคยขายได้ในปี 2014 ที่ 70 ล้านชิ้น ส่วนนาฬิกาอัจฉริยะ (เฉพาะรุ่นที่ราคาสูงกว่า 149 เหรียญสหรัฐ) จะสามารถทำยอดได้ถึง 21 ล้านเครื่อง
แต่โดยรวม ตลาด Wearable Tech ในปี 2015 คาดว่าจะมีมูลค่าแตะ 7.14 พันล้านเหรียญสหรัฐ และเป็นตลาดที่มาแรงตลอดปี 2015 อย่างแน่นอน
3.แอปเปิลวอทช์ชนะได้อีกแค่ปีเดียว
หลังสิ้น สตีฟ จ็อบส์ นวัตกรรมจากค่ายแอปเปิลอาจโกยเงินให้บริษัทถึงปีหน้าเป็นปีสุดท้าย ด้วยความร้อนแรงของแอปเปิลวอทช์ที่ทำให้หลายคนตั้งหน้าตั้งตารอนั่นเอง แต่ในปี 2016 นักวิเคราะห์จากฟอร์เรสเตอร์ เชื่อว่า ส่วนแบ่งตลาดของแอปเปิลจะลดลง โดยจะมีคู่แข่งใหม่ๆ จากแพลตฟอร์มแอนดรอยด์ขึ้นมาท้าชิง
4.สินค้า “อัจฉริยะ” จะครองโลก
ปี 2015 ฟีเจอร์ของการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตได้จะกลายเป็นเรื่องธรรมดาสามัญของโลก สินค้าทุกอย่างไม่ว่าจะเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้า ขวดยา กระติกน้ำ ฯลฯ จะถูกพัฒนาให้สามารถเชื่อมต่อเข้าอินเทอร์เน็ตได้
จากเดิมที่เราเคยต้องเรียกว่ากระติกน้ำอัจฉริยะ หลอดไฟอัจฉริยะ แต่ในปี 2015 สิ่งประดิษฐ์เหล่านี้จะถูกผลิตออกมาจนเต็มท้องตลาด และคาดว่าจะถูกซื้อไปใช้งานถึง 4.9 พันล้านชิ้น
ไอดีซี ซึ่งเป็นผู้คาดการณ์อนาคตข้อนี้เผยด้วยว่า มีความเป็นไปได้ว่าในอีก 5 ปีข้างหน้า ภาคอุตสาหกรรมจะแปะเซ็นเซอร์ และชิปลงบนสินค้าทุกชนิด ซึ่งไปส่งผลดีต่อคลาวด์คอมพิวติ้งอีกต่อหนึ่งด้วย
5.Hang Out ออนไลน์
ไอดีซียังได้คาดการณ์มาถึงพฤติกรรมของมนุษย์ในปีหน้าว่า จะมีการใช้เวลากับโลกออนไลน์มากขึ้น หลังจากมีแอปพลิเคชันด้านธุรกิจที่ช่วยให้การทำงานผ่านอุปกรณ์สื่อสารเพิ่มมากขึ้น ส่วนการพบปะพูดคุยกันซึ่งหน้าอาจลดลง
6.ลายนิ้วมือจะมาแทนพาสเวิร์ด
การยืนยันตัวบุคคลด้วยลายนิ้วมือจะเข้ามาแทนที่การใช้พาสเวิร์ดเพียงอย่างเดียว ซึ่งในจุดนี้ แอปเปิลถือเป็นผู้นำตลาดด้วยเทคโนโลยี TouchID ที่ใช้ในไอโฟนอย่างแพร่หลาย
โดยทางไอดีซีคาดว่า ในปีหน้า สมาร์ทโฟนกว่า 15 เปอร์เซ็นต์จะพัฒนาระบบสแกนลายนิ้วมือขึ้นใช้ยืนยันตัวบุคคล และในปี 2020 ตลาดดังกล่าวจะขยายตัวมากขึ้น และอาจมีสมาร์ทโฟนถึง 50 เปอร์เซ็นต์ในท้องตลาดที่รองรับเทคโนโลยีดังกล่าวเลยทีเดียว
7.พรินเตอร์สามมิติจะโตต่อเนื่อง
การ์ทเนอร์คาดการณ์ว่า ในปี 2015 ตลาดพรินเตอร์สามมิติอาจโตถึง 98 เปอร์เซ็นต์อันเป็นผลสืบเนื่องจากการเปลี่ยนแปลงของภาคอุตสาหกรรม ซึ่งในอนาคตภาคธุรกิจอาจจำเป็นต้องสร้างโปรโตไทป์ของผลิตภัณฑ์มากขึ้น และอาจทำให้มูลค่าของตลาดพรินเตอร์สามมิติแตะ 16.2 พันล้านเหรียญสหรัฐได้ในปี 2018 เลยทีเดียว
8.ปีแห่งแอปเพื่อสุขภาพ
เทรนด์สุขภาพเป็นอีกเทรนด์หนึ่งที่จะมาแรงอย่างเป็นรูปเป็นร่าง โดยเฉพาะในส่วนของแอป
โดยไอดีซีคาดการณ์ว่า ปี 2015 จะเป็นปีแห่งการเริ่มต้นของธุรกิจสถานพยาบาลในการลงสู่ตลาดแอป และในปี 2018 คาดว่า 65 เปอร์เซ็นต์ของการติดต่อกับสถานพยาบาลจะกระทำผ่านแอป โดยจะพัฒนาขึ้นไปถึงระดับที่ช่วยมอนิเตอร์สุขภาพได้โดยไม่ต้องมาตรวจถึงโรงพยาบาล
9.การตลาดดิจิตอลโตสุดๆ
ปี 2015 จะเป็นปีที่ธุรกิจต่างๆ หันหน้าเข้ามาหาโลกดิจิตอลกันเป็นประวัติการณ์ ซึ่งอาจสร้างรายได้มหาศาลให้แก่ตลาดแห่งนี้ นอกจากนั้น คนที่จะได้อานิสงส์ก็อาจเป็นบรรดานักพัฒนาแอปดาวน์โหลดฟรีที่จะมีผู้ลงโฆษณามากขึ้น
