กรมควบคุมโรค เตือนประชาชนกลุ่มเสี่ยงสงสัยป่วยไข้หวัดใหญ่ให้พบแพทย์ทันที ส่วนประชาชนทั่วไปหาก 2 วันอาการไม่ดีขึ้นต้องรีบพบแพทย์ ปีนี้พบผู้ป่วยเกือบ 6 พันราย เสียชีวิตแล้ว 4 รายวันนี้ (16 กุมภาพันธ์ 2558) นายแพทย์โสภณ เมฆธน อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า ขณะนี้มีข่าวการระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่ ในหลายประเทศแถบเอเชีย เช่น ฮ่องกง จีน ญี่ปุ่น และสาธารณรัฐเกาหลี ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก โรคไข้หวัดใหญ่ที่พบขณะนี้ ส่วนใหญ่ เป็นสายพันธุ์ H3N2 ซึ่งพบได้ทั่วโลก รวมถึงประเทศไทยด้วย แม้โรคไข้หวัดใหญ่เป็นไข้หวัดตามฤดูกาลเท่านั้น แต่เนื่องจากโรคนี้ มักพบมากในช่วงอากาศเย็น คือช่วงหน้าหนาวและหน้าฝน ดังนั้นประชาชนอาจเจ็บป่วยด้วยอาการไข้หวัดใหญ่ได้ง่าย และกลุ่มเสี่ยงที่จะมีอาการแทรกซ้อนรุนแรง ได้แก่ เด็กเล็ก หญิงมีครรภ์ ผู้ป่วยโรคเรื้อรัง ผู้สูงอายุ หากป่วย/สงสัยไข้หวัดใหญ่ให้รีบพบแพทย์ทันที
จากข้อมูลการเฝ้าระวังโรคไข้หวัดใหญ่ของกรมควบคุมโรค โดยสำนักระบาดวิทยา ตั้งแต่ 1 มกราคม –9 กุมภาพันธ์ 2558 พบผู้ป่วย 5,861 ราย เสียชีวิต 4 ราย กลุ่มที่ป่วยมากที่สุด คือช่วงอายุ 10 - 14 ปี (ร้อยละ 12.64) รองลงมา คือ อายุ 7 – 9 ปี (ร้อยละ 12.30) และอายุ 25 – 34 ปี (ร้อยละ 11.33) ตามลำดับ ส่วนจังหวัดที่มีอัตราป่วยสูงสุด 5 อันดับแรก คือ เชียงใหม่ ลำปาง พระนครศรีอยุธยา ลำพูน และนครราชสีมา
นายแพทย์โสภณ กล่าวต่ออีกว่า ผู้ที่ป่วยโรคไข้หวัดใหญ่ อาการเริ่มด้วยการเป็นไข้ ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อมาก ในเด็กอาจพบอาการคลื่นไส้ อาเจียน ท้องร่วง ส่วนใหญ่มักมีอาการไม่รุนแรง อาจจะทุเลาและหายป่วยภายใน 5 – 7 วัน แต่ในบางรายที่มีปอดอักเสบรุนแรง จะมีอาการหายใจเร็ว เหนื่อย หอบ หายใจลำบาก อาจทำให้เสียชีวิตได้ สำหรับการรักษาโรคไข้หวัดใหญ่ จะรักษาตามอาการ ถ้ามีไข้ให้ใช้ผ้าชุบน้ำเช็ดตัว หากไข้ไม่ลดให้รับประทานยาลดไข้ เช่น พาราเซตามอล นอนหลับพักผ่อน ให้ดื่มน้ำมากๆ และสวมหน้ากากเพื่อป้องกันการแพร่กระจายโรคไปสู่ผู้อื่น โดยเฉพาะหากต้องไปยังสถานที่สาธารณะที่มีคนจำนวนมาก หรือขึ้นรถโดยสารสาธารณะหากอาการไม่ดีขึ้นใน 2 วัน หรือมีอาการรุนแรงให้พบแพทย์ทันที
สำหรับประชาชนกลุ่มเสี่ยง ได้แก่ ผู้สูงอายุมากกว่า 65 ปี หญิงตั้งครรภ์ เด็กอายุต่ำกว่า 2 ปี ผู้ป่วยโรคเรื้อรัง ผู้มีภูมิต้านทานโรคต่ำ และผู้มีโรคอ้วน หากมีอาการสงสัยเป็นไข้หวัดใหญ่ให้รีบพบแพทย์ทันที เนื่องจากหากได้ยาต้านไวรัสทันท่วงที จะทำให้อาการป่วยหายได้เร็ว และไม่รุนแรง ในกรณีที่มีผู้ป่วยโรคไข้หวัดใหญ่ ในสถานที่ที่คนอยู่จำนวนมาก เช่น โรงเรียน สถานศึกษา โรงงาน สำนักงานต่างๆ แนะนำให้ผู้ป่วยหยุดเรียน หรือหยุดทำงานและให้อยู่ที่บ้านแทน จนกว่าจะหายเป็นปกติ และให้ทำความสะอาดสถานที่ อุปกรณ์ เครื่องใช้ต่างๆ อย่างเช่น ลูกบิดประตู ราวบันได โต๊ะอาหาร ด้วยน้ำผงซักฟอก หรือน้ำยาทำความสะอาดทั่วไป และเปิดหน้าต่างให้อากาศถ่ายเท
ด้านนายแพทย์โอภาส การย์กวินพงศ์ รองอธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวเพิ่มเติมว่า โรคไข้หวัดใหญ่ เป็นโรคที่สามารถป้องกันได้ด้วยตนเอง โดยการล้างมือบ่อยๆ ด้วยน้ำและสบู่ ไม่ใช้สิ่งของร่วมกับผู้อื่น ไม่คลุกคลีใกล้ชิดกับผู้ป่วยที่มีอาการไข้หวัด หลีกเลี่ยงการอยู่ในสถานที่ที่มีผู้คนแออัดและอากาศถ่ายเทไม่ดี เป็นเวลานาน โดยไม่จำเป็น หมั่นล้างมือด้วยน้ำและสบู่บ่อยๆ โดยเฉพาะเวลาสัมผัสน้ำมูก น้ำลาย สัมผัสตัวหรือข้าวของเครื่องใช้ผู้ป่วย ดูแลสุขภาพอนามัยตนเอง หลังจากดูแลผู้ป่วยอย่างใกล้ชิด สำหรับการใช้หน้ากากป้องกันโรค จะมีประโยชน์มากในการใช้กับผู้ป่วยที่ต้องอยู่ในที่สาธารณะ เพื่อป้องกันการแพร่เชื้อให้ผู้อื่น หากประชาชนมีข้อสงสัยสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สายด่วนกรมควบคุมโรค 1422
******************************
ที่มา :
http://www.moph.go.th/moph2/index4.php
