ผู้เขียน หัวข้อ: "ผงชูรส" ทำให้ผมร่วงจริงหรือ?  (อ่าน 603 ครั้ง)

ออฟไลน์ webmaster

  • Administrator
  • medtech ปี เอก
  • *****
  • กระทู้: 3951
    • อีเมล์
"ผงชูรส" ทำให้ผมร่วงจริงหรือ?
« เมื่อ: เมษายน 18, 2020, 02:03:16 pm »






“อย่ากินบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปเยอะ เดี๋ยวผมร่วง” เคยได้ยินประโยคทำนองนี้มากันตั้งแต่เด็กเลยใช่ไหมคะ ผู้ใหญ่มักไม่ให้เด็กๆ อย่างเรากินบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปมากเกินไป เพราะไม่อยากให้เราทานผงชูรสมากเกินไปนั่นเอง

ทานผงชูรสมากๆ ทำให้ผมรวงจริงหรือไม่ ถ้าอันตรายมากขนาดนั้นทำไมยึงมีผงชูรสเป็นส่วนประกอบของอาหารมากมายตามท้องตลาด นอกจากผมร่วงผงชูรสยังมีอันตรายอื่นๆ อีกหรือไม่ Sanook! Health มีคำตอบมาให้

 
ผงชูรส คืออะไร ?

ผงชูรส หรือโมโนโซเดียมกลูตาเมท (MSG) ประกอบไปด้วยโซเดียม (เกลือ) และกรดกลูตามิก (กรดอะมิโนชนิดหนึ่ง) ผงชูรสได้จากการหมักกากน้ำตาลจากอ้อย หรือน้ำตาลจากแป้งมันสำปะหลัง ซึ่งเป็นวัตถุดิบธรรมชาติโดยผลิตภัณฑ์สุดท้ายที่ได้จะเป็นผลึกขาวบริสุทธิ์ ละลายน้ำได้ง่าย และเข้ากับอาหารได้ทุกชนิด

ผงชูรสเป็นที่นิยมในการเป็นส่วนประกอบที่ช่วยเสริมรสชาติของอาหารให้ดียิ่งขึ้น หรือเรียกภาษาชาวบ้านคือทำให้อาหารอร่อยกลมกล่อมมากยิ่งขึ้น เราจึงพบผงชูรสตั้งแต่ร้านอาหารข้างทาง ไปจนถึงโรงงานผลิตอาหาร และขนมสำเร็จรูปต่างๆ มากมาย

 
ผงชูรส ทานมากผมร่วง ?

การรับประทานผงชูรสมากๆ ไม่ได้ทำให้ผมร่วงผมล้านแต่อย่างใด ไม่มีปรากฎในวารสารทางการแพทย์ หรือผลงานวิจัยใดๆ ทั้งสิ้น หลายคนนำอาการผมร่วงมาโยงหาสาเหตุที่อาจเกิดขึ้นได้จากอาหารการกิน ผงชูรสจึงตกเป็นจำเลยตามความเชื่อที่ได้รับมาตั้งแต่รุ่นพ่อแม่ แต่อันที่จริงแล้วสาเหตุใหญ่ๆ ของผมร่วง เกิดจากความผิดปกติของรูขุมขนบนหนังศีรษะ และเส้นผมเอง ความเชื่อนี้จึงไม่เป็นจริง

อันตรายจากผงชูรส

แม้ว่าผงชูรสจะไม่ได้ทำให้ผลร่วง แต่ที่เราถูกห้ามตั้งแต่เด็ก ๆ ไม่ให้ทานผงชูรสมากเกินไป เพราะจากวารสารทางการแพทย์ มีการรายงานถึงอาการผิดปกติของคนที่ทานอาหารที่มีผงชูรสเป็นส่วนประกอบเอาไว้มากมาย ตั้งแต่อาการผิดปกติเล็กๆ น้อยๆ ไปจนถึงอาการร้ายแรง

       - คอแห้ง กระหายน้ำ

       - มีอาการแพ้ผงชูรส ปากแห้ง ลิ้นชา แขน หลัง และคอมีอาการชา กล้ามเนื้ออ่อนแรง ใจสั่น แน่นหน้าอก หน้าแดง จนถึงขั้นเป็นลม

       - กระตุ้นอาการหืดหอบ และไมเกรนให้กำเริบ

แต่กระนั้น ก็ยังไม่สามารถสรุปฟันธงได้ว่า อาการผิดปกติดังกล่าวมาจากผงชูรสเพียงอย่างเดียว เพราะจากเหตุการณ์จริงที่เกิดขึ้น และจากการทดลอง มีปัจจัยอื่นเข้ามาเกี่ยวข้องอีกมาก เช่น ส่วนประกอบต่างๆ ของอาหารในจานนั้นๆ ที่อาจส่งผลต่ออาการเหล่านั้นได้ด้วยเช่นกัน

แต่อันตรายจากผงชูรสที่เกิดขึ้นจากเกลือโซเดียมในผงชูรส มีดังนี้

       - ภูมิต้านทานร่างกายลดลง

       - เกิดการคลั่งในสมองของเด็ก ทำให้เด็กโตขึ้นมามีอาการปัญญาอ่อน หรือมีอาการชักโคม่า

       - เป็นอันตรายต่อผู้ป่วยโรคไต ความดันสูง โรคหัวใจ และโรคอื่นๆ ที่แพทย์สั่งห้ามทานอาหารเค็ม

ส่วนใหญ่ผู้บริโภค หรือแม้กระทั่งผู้ผลิตมักไม่ค่อยระมัดระวังในปริมาณการใส่ผงชูรสลงไปในอาหาร เพราะผงชูรสไม่ได้มีรสชาติเค็มชัดเจนเหมือนเกลือแกงธรรมดา ใส่ผงชูรสมากๆ ก็อาจไม่ค่อยรับรู้รสเค็มได้ชัดเจน ถึงอาจเผลอใส่เยอะจนทำให้ร่างกายได้รับผงชูรสมากเกินไปโดยไม่รู้ตัว

นอกจากนี้ยังมีอันตรายที่เกิดขึ้นจากตัวผงชูรสเอง ดังนี้

       - ทำลายสมองส่วนที่ควบคุมการเจริญเติบโต

       - ทำลายระบบสืบพันธุ์ ระบบประสาทตา

       - อาจเป็นต้นเหตุของมะเร็ง

       - เป็นอันตรายต่อหญิงมีครรภ์ ที่อาจส่งผลกระทบต่อการเจริญเติบโตของทารก

ทั้งนี้ อันตรายเหล่านี้เกิดขึ้นจากการทานรับประทานผงชูรส “มากเกินไป” เท่านั้น

ทานผงชูรสเท่าไร ถึงจะไม่เป็นอันตรายต่อร่างกาย

บางคนที่ยังไม่สามารถตัดผงชูรสออกไปจากมื้ออาหารได้อย่างเด็ดขาด ควรรับประทานได้ไม่เกินวันละ 2 ช้อนชา หรือหากต้องการให้รสชาติของอาหารที่ความอร่อยกลมกล่อมใกล้เคียงกับการใส่ผลชูรส สามารถใส่วัตถุดิบจากธรรมชาติได้ เช่น สาหร่าย น้ำต้มกระดูก เป็นต้น

แม้ว่าเรื่องผงชูรสทำให้ผมร่วงจะเป็นเรื่องไม่จริง แต่ที่ผู้ใหญ่ไม่ให้เราทานผงชูรสมากเกินไปตอนเด็กๆ ก็ยังเป็นเรื่องจริงที่ควรทำอย่างนะคะ และถึงแม้ว่าผงชูรสจะแฝงอันตรายเอาไว้มากมาย แต่หากใช้ในปริมาณที่เหมาะสม ก็สามารถให้ประโยชน์กับคนทานอย่างเราๆ ได้เหมือนกัน


ที่มา...https://www.sanook.com/health/6693/