ผู้เขียน หัวข้อ: แม่ใจสลาย ลูกสาวช็อกหมดสติ พยาบาลนั่งกินขนม-เล่นมือถือ สุดท้ายเด็กตาย  (อ่าน 204 ครั้ง)

ออฟไลน์ admin

  • Administrator
  • medtech ปี เอก
  • *****
  • กระทู้: 2325
    • อีเมล์



แม่ใจสลาย ลูกสาวช็อกหมดสติ แต่พยาบาลนั่งกินขนม-เล่นมือถือ ขอให้มาดูหน่อยกลับบอกว่า จะให้ช่วยยังไงล่ะ สุดท้ายเด็กตาย

(10 ม.ค.65) คุณแม่รายหนึ่งโพสต์เล่าเหตุการณ์สูญเสียลูกสาวไปอย่างไม่มีวันกลับ โดยระบุว่า ลูกมีอาการป่วย และได้พาไปหาหมอแล้ว แพทย์วินิจฉัยว่า ลำไส้อักเสบ และได้สั่งแอดมิท 1 คืน ก่อนจะให้กลับบ้าน โดยแม่ขอยาฆ่าเชื้อแต่หมอบอกว่าไม่จำเป็นต้องกิน ลูกจะหายเองใน 7 วัน แต่ต่อมาอาการเริ่มทรุด สุดท้ายลูกเสียชีวิต โดยแม่ได้เล่าพฤติกรรมของพยาบาลที่ไม่สนใจคนไข้ ทั้งนี้ หลังจากที่โพสต์ดังกล่าวเผยแพร่ออกไป ได้มีผู้เข้ามาแสดงความคิดเห็นให้กำลังใจคุณแม่เป็นจำนวนมาก พร้อมทั้งวิพากษ์วิจารณ์การทำหน้าที่ของแพทย์และพยาบาลด้วย

โดยแม่เล่าผ่านเฟซบุ๊กระบุข้อความว่า ” 09/01/65 ในคืนวันพุธกลางดึก ณิชาอ้วกหลายรอบ ประมาณ 8 ครั้ง จนเช้าวันพฤหัสพาลูกไปหาหมอที่ รพ. เบื้องต้นหมอแจ้งว่าลำไส้อักเสบสั่งแอดมิดไป 1 คืน เจาะเลือดไปตรวจแต่ไม่ได้แจ้งว่าลูกเราเป็นอะไร จนเช้าวันศุกร์ อาการอวกเริ่มดีขึ้น หมอสั่งกลับ ณิชาเริ่มสดใส เล่นกับพี่ได้ปกติ

"พอถึงวันเสาร์อาการเหมือนมีไข้ต่ำ ๆ ดูอาการเช็ดตัวให้ทั้งวัน จึงตัดสินใจพาไป รพ.อีกที แต่ไม่ได้รับการตรวจอะไรเลย ได้มาแค่ยาพาราขวดเดียว ทั้ง ๆ ที่เราเอ่ยปากขอยาฆ่าเชื้อได้มั้ยหมอ แต่คำตอบคือไม่ให้ ไม่จำเป็นต้องกิน มันจะหายเองภายใน 7 วัน พอกลับถึงบ้านก็เอายาที่หมอให้เอาให้ลูกกินก่อนนอน ดูอาการตลอดจนถึงเช้า

"จนถึงเช้าวันอาทิตย์ที่ 9 ตัวไม่ร้อนแล้ว ไข้หาย แต่ลูกมีอาการซึม ไม่ค่อยพูด มีแต่นอน จนรู้สึกว่าลูกน่าจะไม่ดีขึ้น เพราะณิชาหายใจเร็ว คิดในใจว่าลูกอาจจะเป็นหอบ แต่ก็ไม่แน่ใจเพราะณิชาไม่เคยเป็น ณิชาเหนื่อยมากยืนเองไม่ไหวมีแต่จะนอนรีบพาไป รพ. ระหว่างทาง ณิชาช็อกจนหมดสติ ยายเป็นคนอุ้มณิชา เราเป็นคนขับรถ เรารีบขับเพื่อที่จะพาลูกถึงมือหมอให้เร็วที่สุด

"ยายรีบอุ้มเข้าห้องฉุกเฉิน แต่… ไม่ได้รับการช่วยเหลือเลย มาดูแค่ว่าเด็กเป็นอะไร รู้ว่าเด็กมันช็อกหน้าซีดมันไม่ไหวแล้ว สิ่งที่เห็นคือไม่มีใครมาสนใจลูกเรา พยาบาลนั่งกินขนมก้มเล่นโทรศัพท์ เรากับแม่ขอร้อง ช่วยลูกหนูหน่อย มาดูให้หน่อย เด็กมันไม่ไหวแล้ว


พยบ//จะให้ทำไงล่ะ จะให้ช่วยไงล่ะ !!!

"ในใจตอนนั้นโกรธมาก อยากให้เป็นลูกมันบ้างจะรู้สึกยังไง รอไปเกือบ 30 นาที หมอถึงมาดู พยาบาลถึงมารุมเสียบเข็ม เจาะเลือด เราจับมือลูกไว้ตลอด กระซิบข้างหู ณิชาแม่อยู่นี่ ไม่เป็นไรนะลูก อดทนนะคนเก่ง หนูต้องหาย หนูต้องอยู่กับแม่ แต่ลูกก็อาการแย่ลง หอบขึ้น 60 ออกซิเจนต่ำ

"หมอเลยถามว่า จะใส่เครื่องช่วยหายใจแล้วส่งยโส ในตอนนั้น เราคิดแค่ว่า จะทำทุกทาง ยอมทุกอย่างขอแค่ลูกหาย จนหมอเอาเข้าห้องเพื่อใส่ท่อ เราเข้าไปไม่ได้ ได้แค่ยืนรอหน้าห้อง ยืนฟังเสียงลูก เข้าไปได้สักพักได้ยินเสียงร้องเหมือนจะขาดใจ เสียงร้องที่มันเจ็บแบบทรมาน เสียงร้องณิชา3ครั้งแล้วก็เงียบไป…

"สักพักหมอเดินมาบอก คุณแม่ครับ ในขณะที่หมอพยายามใส่เครื่องช่วยหายใจหัวใจน้องหยุดเต้น ตอนนี้กำลังพยายามปั๊มหัวใจอยู่ ตอนนั้นหน้าชา หูอื้อ เหมือนหัวใจมันแตกสลาย จนสุดท้ายหมอเรียกญาติไปดูลูก หมอถอดสายทุกอย่างออกต่อหน้าเรา ตอนนั้นมันจุก มันเจ็บในใจ ได้แต่กอดร่างที่ไร้วิญญาณ มันเจ็บปวด ทุกอย่างมันมืดไปหมดเลย

"สิ่งที่หมอบอกหลังลูกตายคือ น้องปอดติดเชื้อ หัวใจล้มเหลว เราพูดกับหมอว่า ลูกหนูเป็นขนาดนี้ทำไมวันนั้นสั่งกลับ ขอยาฆ่าเชื้อทำไมไม่ให้ มาตั้งหลายรอบทำไมไม่ตรวจ ทำไมปล่อยให้ลูกเรานอนรอความตาย แม่ขอโทษนะณิชา หนูคงเจ็บ คงทรมาน แม่ขอโทษ ขอโทษที่ดูแลไม่ได้ พาหนูเติบโตไปกว่านี้ไม่ได้ ถ้ายังมีวาสนาต่อกัน กลับมาเกิดเป็นลูกแม่อีกนะณิชา"


ที่มา...https://www.sanook.com/news/8501082/