ผู้เขียน หัวข้อ: เปิดประวัติ "เรือหลวงสุโขทัย" ใช้งานยาวนาน 35 ปี ก่อนอับปางกลางทะเลอ่าวไทย  (อ่าน 462 ครั้ง)

ออฟไลน์ admin

  • Administrator
  • medtech ปี เอก
  • *****
  • กระทู้: 2325
    • อีเมล์



จากข้อมูลของกองทัพเรือ ให้ข้อมูลว่าเป็นเรือคอร์เวตชุดเรือหลวงรัตนโกสินทร์ (2 ลำ) สังกัดกองเรือฟรีเกตที่ 1 กองเรือยุทธการ สร้างโดย TACOMA BOATBUILDING COMPANY ที่เมือง TACOMA สหรัฐอเมริกา โดยเรือหลวงสุโขทัยมีชื่อเดิมว่า RTN 252 FT PSMM MK-16 #446 ที่ได้รับการติดตั้งระบบอาวุธยุทโธปกรณ์และระบบอำนวยการรบที่ทันสมัย มีขีดความสามารถและประสิทธิภาพสูงพร้อมปฏิบัติการรบได้ทั้ง 3 มิติในเวลาเดียวกัน คือ การป้องกันภัยทางอากาศ ผิวน้ำ และสงครามปราบเรือดำน้ำ

ภารกิจหลักของเรือหลวงสุโขทัยคือการปราบเรือดำน้ำ ลาดตระเวนตรวจการณ์ คุ้มกันกระบวนเรือ สนับสนุนการยิงฝั่ง ส่วนภารกิจรองคือสนับสนุนภารกิจกองทัพเรือ

เรือหลวงสุโขทัยลำปัจจุบัน เป็นเรือลำที่ 2 หลังจากที่เรือลำแรกได้ปลดระวางไปแล้ว เนื่องจากมีการใช้งานมาเป็นระยะเวลายาวนาน โดยเรือหลวงลำนี้ เป็นเรือหมายเลข 442 วางกระดูกงู เมื่อวันที่ 26 มี.ค. 2527 ขึ้นระวางประจำการ 19 ก.พ. 2530 สร้างโดย Tacoma Boat Building Co, สหรัฐอเมริกา มีความยาวตลอดลำ 76.8 เมตร ความกว้าง 9.6 เมตร กินน้ำลึก 4.5 เมตร ความเร็วมัธยัสถ์ 18 นอต ความเร็วสูงสุด 24 นอต ระวางขับน้ำปกติ 840 ตัน ระวางขับน้ำสูงสุด 960 ตัน ระยะปฏิบัติการไกลสุด 3,568 ไมล์ กำลังพลประจำเรือ 87 นาย

ระบบตรวจการณ์

เรดาร์ตรวจการณ์พื้นน้ำ Decca 1226
เรดาร์ตรวจการณ์พื้นน้ำ/อากาศ ZW-06
เรดาร์ตรวจการณ์พื้นน้ำ/อากาศ DA-05
โซนาร์ติดใต้ตัวเรือ STN Atlas DSQS-21C
เรดาร์ควบคุมการยิง WM-25
LIROD-8 optical


ระบบอาวุธ

ปืน 76/62 มม. จำนวน 1 กระบอก
ปืน 40L70 มม. แท่นคู่ 1 กระบอก
ปืน 20 มม. 2 กระบอก
ระบบอาวุธปล่อยนำวิถี พื้น-สู่-พื้น แบบ ฮาร์พูน 2 แท่น (8 ท่อยิง)
ระบบอาวุธปล่อยนำวิถี พื้น-สู่-อากาศ แบบ อัลบราทรอส 1 แท่น (8 ท่อยิง)
ท่อตอร์ปิโด 2 แท่น (6 ท่อยิง)

ระบบขับเคลื่อนและเครื่องจักรช่วย

เครื่องจักรใหญ่ดีเซล MTU 20V1163 TB83 2 เครื่อง
เพลาใบจักร 2 เพลา

ทั้งนี้เรือในชุดเดียวกัน เรือหลวงรัตนโกสินทร์ (ลำที่ 2) เรือหลวงสุโขทัย (ลำที่ 2)

สำหรับสาเหตุที่ทำให้เรือหลวงสุโขทัยเอียงจนอับปางในเวลา 23.30 ของคืนวันอาทิตย์ที่ 18 ธันวาคม 2565 มาจากคลื่นลมแรง จนทำให้มีน้ำทะเลบางส่วนไหลเข้าระบบเครื่องไฟฟ้าผ่านท่อไอเสียข้างเรือ จนทำให้เครื่องไฟฟ้าดับ และส่งผลต่อเครื่องจักรใหญ่หยุดทำงานเป็นเหตุให้เรือไม่สามารถควบคุมเรือได้ และทำให้น้ำเข้าภายในตัวเรืออย่างรวดเร็วจนทำให้เรือเอียงและอับปางในเวลาต่อมา ซึ่งกองทัพเรือระบุว่า ขณะเกิดเหตุมีกำลังพล 106 นาย


ที่มา...https://www.sanook.com/news/8689386/