ผู้เขียน หัวข้อ: บุกจับแก๊งหนุ่มภูเก็ตคารีสอร์ต ขนยาบ้าล็อตใหญ่ 9 แสนเม็ด จากเหนือจ่อลงใต้  (อ่าน 445 ครั้ง)

ออฟไลน์ pigky

  • medtech ปี เอก
  • ******
  • กระทู้: 1170
เวลา 02.00 น. วันที่ 17 พ.ค. ผู้สื่อข่าว ข่าวสด รายงานว่า พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ ที่ปรึกษาผู้บัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด พล.ต.ท.หาญพล นิตย์วิบูลย์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 พล.ต.ต.นิพนธ์ ภู่พันธุ์ศรี ผู้บังคับการตํารวจภูธรจังหวัดราชบุรี ร่วมกันแถลงผลจับกุมผู้ค้ายาเสพติดรายใหญ่พร้อมพวกจำนวน 3 คน ได้ที่ห้องพักเลขที่ 037 และเลขที่ 038 ครัวหลวงรีสอร์ต หมู่ที่ 5 ตำบลโคกหม้อ อำเภอเมือง จังหวัดราชบุรี พร้อมของกลางยาบ้าจำนวน 9 แสนเม็ด รถยนต์ยี่ห้อฮอนด้า ซีวิค ทะเบียน ขง- 4709 สงขลา รถยนต์ยี่ห้อ ฮอนด้า ซีวิค ทะเบียน ขค- 9438 สงขลา รถยนต์มิตซูบิชิ Space wagon ทะเบียน กพ- 6112 กทม. พร้อมผู้ต้องหาคือ นายมะยอนี มามะ อายุ 40 ปี อยู่บ้านเลขที่ 25/32 หมู่ที่ 4 ตำบลราไวย์ อำเภอเมือง จังหวัดภูเก็ต นายทูบี สะมะแอ อายุ 40 ปี อยู่บ้านเลขที่ 26/34 หมู่ที่ 6 ตำบราไวย์ อำเภอเมือง จังหวัดภูเก็ต และ นายมะอีซอ ปี อายุ 33 ปี อยู่บ้านเลขที่ 36/ 1 หมู่ที่ 3 ตำบลป่าคลอก อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต

พล.ต.อ.สมยศ กล่าวว่า ได้จับกุมผู้ต้องหาขบวนการค้ายาเสพติด สืบเนื่องจากได้รับการสนับสนุนทางการข่าวจาก พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ให้ข้อมูลทางการข่าวว่า ขบวนการค้ายาเสพติดได้เปลี่ยนเส้นทางลําเลียงยาเสพติดจากภาคเหนือ จากจังหวัดเชียงราย และเชียงใหม่ และจากชายแดนประเทศลาวที่ติดกับประเทศไทย ยาเสพติดล็อตนี้ได้ผ่านมาทางจังหวัดหนองคาย แล้วลําเลียงเข้าสู่ภายในของประเทศ จุดหมายปลายทาง คือ ลําเลียงสู่ภาคใต้และส่งต่อประเทศมาเลเซีย จากการจับกุมผู้ต้องหาทั้ง 3 คนนี้ ได้มีการขยายผล ว่าขบวนการยาเสพติดมีการส่งมอบจํานวนนี้ที่ครัวหลวงรีสอร์ต ตําบลโคกหม้อ อําเภอเมือง จังหวัดราชบุรี ตํารวจได้ติดตาม จนสามารถจับกุมคนร้ายทั้ง 3 คนได้ ของกลางยาบ้าประมาณ 900,000 เม็ด จุดหมายปลายทางคาดว่าประเทศมาลาเซีย

สอบถามผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 2 แล้ว แต่ละครั้งได้รับค่าจ้างขนส่งครั้งละ 500,000 บาท จากการข่าวทราบว่าแหล่งผลิตมาจากทางภาคเหนือจังหวัดเชียงราย ทั้งนี้เนื่องจากทางสืบสวนภาค 5 ภาค 6 ตั้งด่านสกัดจับ มีการจับกุมขบวนการค้ายาเสพติดรายใหญ่อย่างเข้มข้นจนจับกุมได้บ่อยครั้ง ๆ ละมาก ๆ ขบวนการค้ายาเสพติดจึงมีการปรับเปลี่ยนยุทธวิธี เปลี่ยนเส้นทางในการขนยาเสพติด ครั้งนี้ทําให้เห็นว่าเป็นหลักฐานยืนยันว่าขบวนการค้ายาเสพติดได้ปรับเปลี่ยนเส้นทาง จากภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือจริงอย่างที่การข่าวแจ้งมาก่อนหน้านี้