ผู้เขียน หัวข้อ: สื่อแพร่วิดีโอหายนะโครงการอวกาศ จรวดรัสเซียระเบิดกลางท้องฟ้า(ชมคลิป)  (อ่าน 1969 ครั้ง)

ออฟไลน์ vt

  • medtech ปี เอก
  • ******
  • กระทู้: 530
    • อีเมล์






clip..
http://www.youtube.com/watch?feature=player_embedded&v=Y4-Idv6HnH8#at=161


เอเอฟพี - สื่อต่างประเทศเผยแพร่คลิปวินาทีจรวดไร้ลูกเรือของรัสเซีย เกิดระเบิดกลางอากาศเมื่อวันอังคาร(2) หลังทะยานขึ้นจากฐานปล่อยจรวดคอสโมโดรม ในเมืองไบโคนูร์ ประเทศคาซัคสถาน ไม่กี่นาที ทำเชื้อเพลิงมีพิษสูงพุ่งกระจายกลางอากาศ หายนะทางโครงการอวกาศแดนหมีขาวหนล่าสุดที่เกิดขึ้นท่ามกลางการถ่ายทอดสดทางสถานีโทรทัศน์
   
   ในคลิปวิดีโอระทึกพบเห็นจรวดไร้ลูกเรือ "โปรตอน-เอ็ม" ที่มีวัตถุประสงค์บรรทุกดาวเทียมระบบนำร่อง "โกลนาส-เอ็ม" 3 ดวงขึ้นสู่อวกาศ หลุดออกจากวิถีโคจรไม่นานหลังถูกปล่อยออกจากฐานคอสโมโดรม ณ เวลาประมาณ 6.38 น.(ตรงกับเมืองไทย 9.38 น.) ก่อนระเบิดตูมสนั่น จากนั้นจรวดก็แตกเป็นเสี่ยงๆแล้วลุกไหม้ พร้อมเกิดกลุ่มควันดำขนาดใหญ่ ขณะที่นายวลาดิมีร์ บอซโก รัฐมนตรีกระทรวงฉุกเฉินของคาซัคสถาน สันนิษฐานว่าต้นตอน่าจะเกิดจากเหตุขัดข้องของเครื่องยนต์ตรงท่อนแรกของจรวด
   
   จรวดลูกนี้ร่วงลงห่างจากฐานปล่อยคอสโมโดรมที่รัสเซียเช่าจากคาซัคสถาน ไปราวๆ 2.5 กิโลเมตร อย่างไรก็ตามองค์การอวกาศรัสเซีย (รอสคอสมอส ) ระบุว่าอุบัติเหตุครั้งนี้ไม่ก่อความเสียหายหรือมีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตใดๆ แต่ได้มีการปิดล้อมพื้นที่โดยรอบในทันที ด้วยประชาชนที่พำนักอยู่ตามเมืองที่อยู่ใกล้เคียง ในนั้นรวมถึงไบโคนูร์ ได้รับคำเตือนให้อยู่แต่ในตัวอาคารและปิดประตูหน้าต่างให้มิดชิด

 ทัลกัต มูซาบาเยฟ ผู้อำนวยการองค์การอวกาศของคาซัคสถาน ระบุว่าจรวดลูกนี้บรรทุกเชื้อเพลิง 600 ตัน อันประกอบด้วยสารพิษต่างๆไม่ว่าจะเป็นเคโรซีน เฮพทิลและเอมิล โดยเฉพาะเฮพทิล ที่ทราบกันดีว่ามีความอัตรายกว่าอาวุธเคมีซารินเสียอีก
   
   กระนั้นก็ดีเจ้าหน้าที่คาซัคสถานออกมาคลายความกังวลต่อความเป็นไปได้ที่มันอาจก่ออันตรายแก่ประชาชน ด้วยบอกว่าเชื้อเพลิงส่วนใหญ่ถูกเผาไหม้กลางอากาศ ขณะที่โฆษกสำนักงานองค์การอวกาศคาซัคสถาน เสริมว่าจากการสุ่มตรวจตัวอย่างอากาศและดินในพื้นที่ ณ เวลา 6.00 จีเอ็มที(ตรงกับเมืองไทย 13.00 น.) ไม่พบร่องรอยของเฮพทิลและเอมิลหลงเหลืออยู่แต่อย่างใด
   
   ผู้เชี่ยวชาญระบุว่าหายนะทางโครงการอวกาศครั้งนี้ ได้กัดเซาะชื่อเสี่ยงของจรวดโปรตอน-เอ็ม ซึ่งขึ้นชื่อด้านความไว้วางใจได้อย่างรุนแรง "โปรตอน คือม้าใช้หลักของเราในเชิงพาณิชย์" วาดิม ลูคาเชวิช นักวิเคราะห์ทางอวกาศบอกกับเอเอฟพี "ตอนนี้พวกนักธุรกิจอาจเริ่มคิดแล้วก็ได้ว่าบางทีพวกเขาอาจต้องหันไปหาจรวดบรรทุกอื่นๆ"

  พร้อมกันนั้นเขายังคาดหมายด้วยว่ารัสเซียอาจต้องเจอแรงกดดันจากคาซัคสถานเพิ่มเติม ต่อข้อเรียกร้องขอขึ้นค่าเช่าฐานคอสโมโดรม ขณะเดียวกันเหล่านักเคลื่อนไหวด้านสิ่งแวดล้อมชื่อดังของคาซัคสถานก็กล่าวโทษมอสโกต่อผลกระทบทางสิ่งแวดล้อมที่เกิดขึ้นจากความผิดพลาดล่าสุด
   
   แม้ประสบความสำเร็จมาแล้วมากมาย อาทิการส่งมนุษย์คนแรกขึ้นสู่อวกาศในปี 1961 อันนำพามาซึ่งเสียงสรรเสริญต่อโครงการด้านอวกาศของรัสเซีย แต่ช่วงหลายครั้งที่ผ่านมา พวกเขากลับต้องพบกับความอับอายบ่อยครั้ง ไม่ว่าจะเป็นการสูญเสียดาวเทียมมูลค่ามหาศาล รวมถึงไปยานลำเลียงไร้ลูกเรือที่มุ่งหน้าสู่สถานีอวกาศนานาชาติ
   
   หายนะทางอวกาศเมื่อวันอังคาร(2) ย้อนให้นึกถึงโศกนาฏกรรม ณ ฐานคอสโมโดรมแห่งเดียวกันนี้เมื่อปี 1960 หลังจรวดต้นแบบเกิดระเบิดตรงฐานยิงและพ่นเชื้อเพลิงมีพิษขึ้นสู่อากาศ จนถูกขนานนามว่า "พิษแห่งปีศาจ" โดยอุบัติเหตุคราวนั้นมีบาดเจ็บมากถึง 126 คน ส่วนใหญ่เป็นอาการที่ผิวหนังถูกความร้อนจากจรวดเผาไหม้จนเกรียม และการสำลักควันพิษที่มาจากการลุกไหม้ของเชื้อเพลิง ด้วยบางส่วนเสียชีวิตในเวลาต่อมา
   
   เป็นที่ทราบกันดีว่า สหภาพโซเวียตที่ส่วนหนึ่งแตกออกมาเป็นรัสเซียในปัจจุบัน ขับเคี่ยวกับสหรัฐอเมริกาในเรื่องการพัฒนาโครงการอวกาศมานานกว่า 5 ทศวรรษ ทว่าฝั่งมอสโกในอดีตต่างจากวอชิงตันตรงที่จะเก็บโครงการของตนเป็นความลับสุดยอดแทบทุกครั้ง โดยเฉพาะในเรื่องความผิดพลาด