คุ้นกับวลีนี้ไหม "ตัวไกลแต่หัวใจอยู่ใกล้" แต่เหตุไฉนไปๆ มาๆ กลับกลายเป็น "รักแท้ แพ้ระยะทาง" ไปในที่สุด
ยิ่งเทคโนโลยีการสื่อสารที่อยู่ในกำมือสามารถโทรกริ๊งหาคนรัก หรือส่งข้อความผ่านทวิตเตอร์ถึงกันได้ทุกนาที ทุกวี่วัน แถมยังอัพเดทความเป็นไปของชีวิตตนผ่านเฟซบุ๊กได้อีก ความรู้สึกที่เหินห่าง เหงา เปล่าเปลี่ยวก็ลดน้อยแล้ว
แต่นั่นก็ยังไม่พอ เพราะหลายคู่รักก็อยากได้รับสัมผัสกอดอันอบอุ่นของกันและกัน อยากสัมผัสจูบ และรับสัมผัสริมฝีปาก
นักพัฒนาโปรแกรมคงเข้าใจหัวอกคนอยู่ไกลดีจึงพัฒนา "แอพ" หรือโปรแกรมบนไอโฟนให้คนรักประทับจูบกันได้แม้จะอยู่คนละที่ โดยทั้งสองฝ่ายต้องลงโปรแกรมที่ชื่อว่า โมบาย เมกเอาท์ (Mobile Make Out) ทั้งคู่
แอพไอโฟนดังกล่าวเป็นโปรแกรมฟรี และใช้งานส่งจูบผ่านไวไฟอินเทอร์เน็ต หรือผ่านสัญญาณวิทยุบลูทูธก็ได้ในกรณีอยู่ห่างกันไม่กี่สิบเมตร ซึ่งอาจเหมาะกับคนที่แอบปิ๊งกันในออฟฟิศเดียวกันแอบจูจุ๊บกันบนจอสัมผัสของไอโฟนพร้อมกัน
แอพไอโฟนจูบผ่านจอไม่ได้จำกัดว่าจะส่งเทียบเชิญจูบกันเฉพาะคู่รัก หรือแฟน แต่ยังสามารถส่งโปรยจูบเชิญเพื่อนร่วมงาน เพื่อน หรือแม้แต่คนแปลกหน้าที่พบกันในงานปาร์ตี้ให้มาร่วมจูบกันได้ แต่คงต้องระวังหน่อยสำหรับสาวๆ เพราะลิปสติกที่ฝากไปกับหน้าจออาจทำให้หน้าจอไอโฟนเลอะเทอะ หรือเสียหายได้
บางคนตั้งคำถามเชิงจริยธรรมกับแอพไอโฟนลักษณะนี้ ซึ่งอาจทำให้คนนอกใจกันเป็นว่าเล่นและเข้าทำนองชู้สาวกันง่ายขึ้น หากไม่คิดอะไรมาก มองในมุมของนักพัฒนาโปรแกรมแล้วก็ถือว่าเป็นแอพที่น่าสนใจเพราะออกแบบให้แอพทำงานได้เมื่อสองฝ่ายสัมผัสจอพร้อมกัน
โดยเทียบเคียงกันแล้ว ห้องวิจัยคาจิโมโตะของมหาวิทยาลัยไฟฟ้าและการสื่อสารของญี่ปุ่นก้าวล้ำหน้าไปกว่าแอพไอโฟนจูบผ่านจอหลายร้อยเท่า นักวิจัยได้คิดค้นอุปกรณ์จูบไร้สายที่ชวนสยิวมากกว่า เพราะอีกฝั่งจะรู้สึกได้ถึงลิ้นสาละวนของอีกฝ่ายที่อยู่ห่างไกล
ทีมวิจัยได้พัฒนาอุปกรณ์มีลักษณะเหมือนกล่องสี่เหลี่ยม ซึ่งมีช่องเสียบท่อคล้ายหลอดกาแฟโผล่ออกมา เมื่อดูภายนอกแล้วไม่ได้ชวนให้ซาบซ่าแต่อย่างใด แต่ในทางปฏิบัติแล้วมันออกแบบให้จดจำการเคลื่อนไหวของลิ้นที่หมุนวนหลอดเลียนแบบการจูบแบบชาวฝรั่งเศสที่ใช้ลิ้นวนในปากของอีกฝ่าย
จากนั้นซอฟต์แวร์จะทำหน้าที่บันทึกการเคลื่อนไหวของลิ้นที่สาละวนกับหลอดแล้วส่งต่อไปยังอุปกรณ์แบบเดียวกันที่ตั้งอยู่ไกลออกไป นั่นหมายความว่า หากอีกฝ่ายอมอุปกรณ์อยู่ในปากเวลาเดียวกันก็จะรับรู้การเคลื่อนไหวของหลอด ซึ่งทำหน้าที่เสมือนลิ้นของอีกฝ่ายได้ทันที นักวิจัยยังมีแผนพัฒนาให้ใกล้เคียงรสชาติจูบจริงโดยเพิ่มรสชาติ เสียงลมหายใจ และความชุ่มชื้นของลิ้นเข้าไปด้วย
อยากรู้จริงๆ ว่า ถ้ามีอุปกรณ์พิเรนทร์แบบนี้วางขายจริง มันจะขายออกไหม แต่เชื่อเถอะว่าโลกนี้มีคนพิเรนทร์มากพอที่จะทำให้อุปกรณ์จูบไร้สายขายออกชนิดได้ทุนคืนมาอย่างรวดเร็ว แค่ขายคนญี่ปุ่นเองก็รวยอื้อซ่าแล้ว
ผู้อ่านสามารถเข้าไปชมวิดีโอสาธิตได้ที่
http://www.diginfo.tv/2011/05/02/11-0090-r-en.phpที่มา กรุงเทพธุรกิจ
