ผู้เขียน หัวข้อ: รัฐบาลถวาย “โครง‏การฝากท้องทุกที่ฟรีทุกสิทธิ์”  (อ่าน 1282 ครั้ง)

ออฟไลน์ vt

  • medtech ปี เอก
  • ******
  • กระทู้: 530
    • อีเมล์



รัฐบาลถวาย “โครง‏การฝากท้องทุกที่ฟรีทุกสิทธิ์” เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ


      รัฐบาลถวายโครงการฝากท้องทุกที่ฟรีทุกสิทธิ์  เพื่อเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ เนื่องในวันแม่แห่งชาติ ประจำปี 2556 ให้หญิงตั้งครรภ์คนไทยทุกคนที่มีประมาณ 800,000 คน ฝากท้องได้ที่สถานพยาบาลในสังกัดกระทรวงสาธารณสุข ฟรีทุกสิทธิ์ เพิ่มมาตรฐานบริการแม่และเด็ก สร้างคุณภาพประชากรที่อาศัยในประเทศเริ่มตั้งแต่อยู่ในครรภ์สุขภาพแข็งแรง ปลอดโรคพันธุกรรม ไร้พิการ อีคิว ไอคิวเกิน 100 มีผลตั้งแต่  14 สิงหาคม 2556 เป็นต้นไป โดยหญิงตั้งครรภ์จะมีบัตรประจำตัวสีชมพู และระบุวันคลอดชัดเจน ได้รับบริการฝากครรภ์ 5 ครั้ง ส่วนบัตรเด็กใช้สีเหลือง ดูแลต่อเนื่องฟรีถึงอายุ 6 ปี                       
     วันนี้ (14 สิงหาคม 2556) ที่โรงพยาบาลราชวิถี กทม. นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยนายแพทย์ประดิษฐ สินธวณรงค์   รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข นายสรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข นายแพทย์ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข และคณะผู้บริหาร เปิดตัวโครงการฝากท้องทุกที่ฟรีทุกสิทธิ์  ด้วยบัตรสุขภาพแม่และเด็ก(Health Card For Mother&Child) เพื่อเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ เนื่องในวันแม่แห่งชาติ ประจำปี 2556 และเยี่ยมชมการสาธิตการขึ้นทะเบียนบัตรสุขภาพแม่และเด็กที่แผนกผู้ป่วยนอก เยี่ยมชมการตรวจครรภ์ และเดินทางไปเยี่ยมแม่หลังคลอด เพื่อมอบบัตรสุขภาพเด็กให้หญิงหลังคลอดที่โรงพยาบาลราชวิถีด้วย

         รัฐบาลโดยนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี มีนโยบายพัฒนาคุณภาพและการเข้าถึงการรักษาพยาบาลของประชาชนทุกสิทธิการรักษาอย่างทั่วถึงและเท่าเทียม เป็นการพัฒนาต่อยอดโครงการ 30 บาทรักษาทุกโรคเช่น โครงการเจ็บป่วยฉุกเฉิน ถึงแก่ชีวิต ไม่ถามสิทธิ์ รักษาทันที ซึ่งดำเนินการมาแล้ว 15 เดือน ประสบผลสำเร็จอย่างสูง ในปี 2556 นี้ ได้จัดทำโครงการฝากท้องทุกที่ ฟรีทุกสิทธิ์ ถวายแด่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถ เพื่อเฉลิมพระเกียรติเนื่องในวันแม่แห่งชาติประจำปี 2556 และพัฒนาคุณภาพประชากรไทย สอดคล้องกับโครงการเพื่อเด็กและสตรี (Every Women Every Child :EWEC) ขององค์การสหประชาชาติในการลดอัตราการเสียชีวิตของสตรีและเด็กทั่วโลกลงให้ได้จำนวน 16 ล้านคน ภายในปี 2558 โดยรัฐบาลไทยมุ่งเน้นการปรับปรุงคุณภาพการให้บริการดูแลแม่และเด็กและส่งเสริมให้หญิงตั้งครรภ์ไทยทุกสิทธิ์ที่มีปีละประมาณ 800,000 คน เข้าถึงบริการอย่างเท่าเทียมเสมอภาค ตามนโยบาย แม่คลอด ลูกรอด ปลอดภัย เท่าเทียมทั่วถึง เนื่องจากข้อมูลทั่วโลกระบุอย่างชัดเจนว่าการเจริญเติบโตและพัฒนาการของเด็กวัย 0-5 ปี เป็นหัวใจของความสำเร็จในการพัฒนาประเทศ

        ตามโครงการนี้ หญิงตั้งครรภ์ทุกคน ทุกสิทธิ์ไม่ว่าจะเป็นโครงการ 30 บาท ประกันสังคม และข้าราชการ  สามารถฝากครรภ์ที่สถานพยาบาลในสังกัดกระทรวงสาธารณสุข โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆ จากเดิมที่หญิงตั้งครรภ์ในโครงการ 30 บาท และประกันสังคม ต้องฝากครรภ์ที่สถานพยาบาลที่ระบุในสัญญา หากไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขก็จะต้องเสียเงินเอง ทำให้ไปฝากท้องเมื่ออายุครรภ์น้อยกว่าหรือเท่ากับ 12 สัปดาห์มีเพียงร้อยละ 53 ซึ่งการฝากครรภ์ช้า จะไม่สามารถค้นหาแก้ไขความผิดปกติได้ทัน ส่งผลให้เด็กไทยแรกเกิดมีต้นทุนชีวิตต่ำ เกิดมาไม่สมบูรณ์  โครงการนี้จึงเป็นการลงทุนสร้างต้นทุนชีวิตเด็กไทยตั้งแต่อยู่ในครรภ์ให้มีสุขภาพแข็งแรง ปลอดโรคพันธุกรรม ไร้พิการ อีคิว ไอคิวเกิน 100 มีผลตั้งแต่ 14 สิงหาคม 2556 เป็นต้นไป โดยหญิงตั้งครรภ์จะได้รับบริการฝากครรภ์ 5 ครั้งตามมาตรฐานสากล ส่วนเด็กจะได้รับการดูแลต่อเนื่องจนถึงอายุ 6 ปี ได้รับวัคซีนป้องกันโรค การติดตามพัฒนาการ ไอคิว และอีคิว     

         ด้านนายแพทย์ประดิษฐ  สินธวณรงค์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ในการพัฒนาระบบการฝากครรภ์ครั้งนี้ จะเน้นให้หญิงเริ่มฝากครรภ์ก่อนอายุครรภ์ 12 สัปดาห์ มีระบบการดูแลตรวจคัดกรองความเสี่ยงต่างๆ ซึ่งที่ผ่านมาพบปัญหาจากแม่ที่ส่งผลการพัฒนาเด็ก ได้แก่  แม่มีอัตราการขาดสารไอโอดีนร้อยละ 53 ภาวะโลหิตจางร้อยละ 18 พบทารกแรกเกิดน้ำหนักตัวน้อยกว่า 2,500 กรัมร้อยละ 8  ทารกแรกเกิดมีภาวะดาวน์ซินโดรม 1.25:1,000 การเกิดมีชีพ เป็นโรคธาลัสซีเมียชนิดรุนแรง 6:1,000 การเกิดมีชีพ ภาวะพร่องธัยรอยด์แต่กำเนิด 6:1,000 การเกิดมีชีพ  เด็กติดเชื้อ เอช ไอวีจากแม่สู่ลูกร้อยละ 2.2 เด็กกินนมแม่อย่างเดียว 6 เดือน เพียงร้อยละ 54 หรือประมาณ 430,000 คน และเด็กอายุต่ำกว่า 6 ปี มีพัฒนาการสมวัยเพียงร้อยละ 70 ในการดูแลดังกล่าวจะมีจ่ายยาที่มีแร่ธาตุ 3 ชนิด ได้แก่ โฟเลตป้องกันความพิการแต่กำเนิด ไอโอดีนป้องกันปัญญาอ่อนและเหล็กป้องกันปัญหาซีด ให้เด็กเจริญเติบโตดี มีพัฒนาการสมวัย และโภชนาการต่างๆ จัดโรงเรียนพ่อแม่สอนการปฏิบัติตัวตามหลักวิชาการ ทั้งแม่มือใหม่และมือเก่า โดยออกบัตรประจำตัวทั้งหญิงตั้งครรภ์สีชมพู ซึ่งจะมีวันกำหนดคลอดเมื่อครบ 40 สัปดาห์ และออกบัตรให้ลูกสีเหลือง ระบุวันเกิดตามบัตรประชาชน ลงนามโดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข

        ด้านนายแพทย์ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า กระทรวงสาธารณสุข ได้วางระบบมาตรฐานของการดูแลหญิงตั้งครรภ์และบุตร 4 จุดตามมาตรฐานสากล ได้แก่การฝากครรภ์คุณภาพ ต้องครบ 5 ครั้งตามมาตรฐานสากล เริ่มครั้งที่ 1 อายุครรภ์น้อยกว่าหรือเท่ากับ 12 สัปดาห์ และ18, 26, 32 และ 38 สัปดาห์  ระบบห้องคลอด การบริบาลทารกแรกเกิด และการดูแลสุขภาพเด็กแรกเกิดจนถึง 5 ขวบ เพื่อให้เด็กเติบโตสมวัย ได้รับวัคซีนครบถ้วน มีไอคิวมากกว่า 100 และอีคิวมาตรฐาน ในรายที่มีพัฒนาการล่าช้าจะได้รับการแก้ไขทันที

          ทางด้านนายแพทย์วินัย  สวัสดิวร เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ หรือ สปสช. กล่าวว่า ในการบันทึกข้อมูลการฝากครรภ์และดูแลสุขภาพเด็ก สปสช. ได้พัฒนาให้เป็นแบบออนไลน์ แพทย์ติดตามประวัติและผลการฝากครรภ์ของแม่และเด็กแม้ว่าจะไม่ใช่สถานฝากครรภ์เดิมก็ตาม เพื่อให้บริการต่อเนื่อง และมีระบบจัดการทางการเงินภายในทั้ง 3 กองทุน ไม่รบกวนผู้ใช้สิทธิ์แต่อย่างใด หากมีข้อสงสัยสามารถสอบถามที่สายด่วน 1330 ตลอด 24 ชั่วโมง





--------------------------------------------
ที่มา http://www.moph.go.th/